UBE ทุ่ม 358 ล้านบาท แตกไลน์ธุรกิจ เข้าซื้อ “โอชิเน” เซ้งร้านอาหารญี่ปุ่น
UBE ทุ่มเงิน 358 ล้านบาท แตกไลน์ธุรกิจเข้าลงทุนใน บริษัท โอชิเน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (Oshinei) ต่อยอดธุรกิจอาหาร เพื่อขยายการลงทุนไปในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ กระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนของธุรกิจเดิม
นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทฯ มีแผนกลยุทธ์ในการขยายการลงทุนไปในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ กระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนของธุรกิจเดิมที่พึ่งพิงมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบหลักเพียงอย่างเดียว และทำให้บริษัทฯ ต้องแบกรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ อาทิ ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้แสวงหาโอกาสการลงทุนในกลุ่มธุรกิจอาหารที่มีศักยภาพดี มีแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และมีทีมงานที่มีประสบการณ์รวมถึงเพิ่มโอกาสในการกระจายสินค้าของบริษัทฯ สู่ผู้บริโภค
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าลงทุนในบริษัท โอชิเน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (Oshinei) โดยแบ่งเป็นดังนี้
การเข้าลงทุนในโอชิเนครั้งที่ 1 ภายใต้สัญญาจองซื้อหุ้นและสัญญาซื้อขายหุ้น บริษัทฯ จะทำการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน
จำนวน 67,962 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 12.75% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในโอชิเนภายหลังจากการเพิ่มทุน คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 76.00 ล้านบาท และเข้าซื้อหุ้นสามัญเดิมของโอชิเนจำนวน 251,816 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 47.25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของโอชิเนจากกลุ่มผู้ขาย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
(1) จำนวน 229,680 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 49.39% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของโอชิเน ซื้อจาก Miso Harmony Limited นิติบุคคล ซึ่งจะจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศฮ่องกง เพื่อประโยชน์ในการจัดการการลงทุนในโอชิเน โดยผู้ถือหุ้นที่แท้จริง (Ultimate Shareholder) ของ Miso Harmony Limited จะมีดังนี้
นายทศสีห์ โควสุรัตน์ ผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทางอ้อมของบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 11.80% ของหุ้นทั้งหมด
นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ถือหุ้นในสัดส่วน 30.37% ของหุ้นทั้งหมด
นางวราพร ภาคโพธิ์ นายกิตติศักดิ์ ลีล้อม นายสมพร โพธิ์ษาราช และนางสาวอัจฉรา ผการัตน์ ถือหุ้นที่เหลือในสัดส่วนรวม 57.83% ของหุ้นทั้งหมด
(2) จำนวน 11,068 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.38% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของโอชิเน ซื้อจากบริษัท ยูเอ็มพี แล็บ จำกัด นิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทย โดยมีนายณพัชร อัมพุช ถือหุ้นในสัดส่วน 99.60% ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท ยูเอ็มพี แล็บ จำกัด
(3) จำนวน 11,068 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.38% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของโอชิเน ซื้อจากบริษัท ทรัพย์มั่นคง อินเวสต์ จำกัด ซึ่งจะจดทะเบียนและจัดตั้งขึ้นในประเทศไทย โดยจะมีนายปณต กิตติประสาธน์ ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ของหุ้นทั้งหมด
สำหรับการเข้าลงทุนในโอชิเนครั้งที่ 1 นี้ บริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนเป็นเงินสดจำนวน 281.60 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าลงทุนในโอชิเนครั้งที่ 1 เสร็จสมบูรณ์ บริษัทฯ จะถือหุ้นในโอชิเน รวมทั้งสิ้นจำนวน 319,778 หุ้น หรือคิดเป็น 60% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของโอชิเน (การเข้าลงทุนครั้งที่1)
1.2 การเข้าลงทุนในโอชิเนครั้งที่ 2 ภายใต้สัญญาให้สิทธิในการเข้าลงทุนครั้งที่ 1 และสัญญาให้สิทธิในการเข้าลงทุน
ครั้งที่ 2 บริษัทฯ มีสิทธิจะซื้อหุ้นสามัญจาก Miso Harmony Limited จากบริษัท ยูเอ็มพี แล็บ จำกัด และบริษัท ทรัพย์มั่นคง อินเวสต์ จำกัด โดยแยกเป็นการลงทุน ดังนี้
(1) ภายใต้สัญญาให้สิทธิในการเข้าลงทุนครั้งที่ 1 (First Call Option Agreement) ในกรณีที่ผลการดำเนินงานรวมของโอชิเนในปี 2567 และปี 2568 ที่ปรากฏในงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของโอชิเนต่ำกว่า 97,000,000 บาท บริษัทฯ มีสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของโอชิเน ในราคาซึ่งเท่ากับมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของหุ้น (หุ้นละ 100 บาท) เพิ่มเติมเป็นจำนวนรวมไม่เกิน 53,296 หุ้น คิดเป็นไม่น้อยกว่า 5% แต่ไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ตามอัตราส่วนที่คู่สัญญาจะตกลงกัน โดยบริษัทฯ สามารถใช้สิทธิได้ในปี 2569 และหากบริษัทฯ ใช้สิทธิในการเข้าลงทุนครั้งที่ 1 นี้ บริษัทฯ จะถือหุ้นของโอชิเนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 70% ของหุ้นทั้งหมด
(2) ภายใต้สัญญาให้สิทธิในการเข้าลงทุนครั้งที่ 2 (Second Call Option Agreement) ในปี 2570 บริษัทฯ มีสิทธิซื้อหุ้นจำนวนไม่เกิน 53,296 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 10% ของหุ้นทั้งหมด ในราคาซื้อขายตามสูตรการคำนวณที่ปรากฏตามสารสนเทศเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) และรายการที่เกี่ยวโยงกัน (สิ่งที่ส่งมาด้วย) ทั้งนี้ ภายหลังจากการใช้สิทธิลงทุนครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ข้างต้น บริษัทฯ จะถือหุ้นในโอชิเน คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 80% ของหุ้นทั้งหมดของโอชิเน