โบรกคัด 3 ธีมเด่น รับ “ThaiESG-วายุภักษ์” จับตาเม็ดเงินสะพัด 1.7 แสนล้าน

บล.กรุงศรี พัฒนสิน แนะลงทุน 3 ธีมเด่น รับปัจจัยบวกกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG หลักเกณฑ์ใหม่ และเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์หนุน ลุ้นเม็ดเงินเข้าตลาดสูงถึงราว 1.2-1.7 แสนล้านบาท


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ก.ย.67) ว่า SET Index ระยะสั้นเริ่มฟื้นตัว และ Outperform ประเทศในเอเชีย แนวโน้มระยะกลางมีปัจจัยบวกหนุนจากกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG หลักเกณฑ์ใหม่ และเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์จะเสนอขายนักลงทุนทั่วไปภายในไตรมาส 3/2567

สำหรับแนวโน้มกระแสเชิงบวกจากการลงทุนด้วยธีม ESG จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นนับจากนี้ไปจากแรงหนุนจากกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG หลักเกณฑ์ใหม่ ปรับเงื่อนไขให้สิทธิซื้อเพิ่มลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้นทั้งเม็ดเงินและสัดส่วนเทียบกับฐานรายได้ผสานระยะเวลาการถือครองเพื่อลงทุน พร้อมรับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีสั้นลง คาดส่งผลบวกมีเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดหุ้นไม่ต่ำกว่า LTF ในอดีต โดยประเมินปีละ 7.8 หมื่นล้านบาท

อีกทั้งกองทุนวายุภักษ์ 1.0-1.5 แสนล้านบาท ที่กลับมาเสนอขายนักลงทุนทั่วไปภายในไตรมาส 3/2567 นี้  ซี่งนโยบายลงทุนจะประกอบด้วยการลงทุน Passive หุ้นที่มีผลประกอบการและกระแสเงินสดที่มีความมั่นคงสูง และการลงทุนแบบ Active ขณะที่ในด้านหนึ่งเกณฑ์การลงทุนในหุ้นที่มี ESG จะถูกนำมาพิจารณาเพิ่มเติม

โดยประเมินว่าเม็ดเงินใหม่ที่กำลังเข้าสู่ตลาดหลักๆ ทั้งหมด 2 ส่วนในปี 2567 ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2567 สูงถึงราว 1.2-1.7 แสนล้านบาท (กองทุนวายุภักษ์ 1.0-1.5 แสนล้านบาท บวกกับ เม็ดเงินกองทุน ThaiESG มีผล 3 เดือน เดือนละ 6-7 พันล้านบาท) ต่อยอดด้วยเม็ดเงิน ThaiESG เต็มปีในปี 2568 อีก 7.8 หมื่นล้านบาท น่าจะหนุน SET ที่ปัจจุบันมีปัจจัยขับเคลื่อนการเมืองภายในชัดเจน และรัฐบาลใหม่ค่อนข้างมีเสถียรภาพมากขึ้น

สำหรับกลยุทธ์แนะนำลงทุนในหุ้น 3 กลุ่มดังต่อไปนี้

1.หุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น, อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และมีแนวโน้มเติบโตดีในช่วง 2567-2568 ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB

2.หุ้นที่อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และซื้อขายในระดับ Valuation Zone รวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตดี ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRCบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP

3.หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูงและมีแนวโน้มการเติบโตดี อยู่ใน Theme Data Center ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มีโอกาสเป็นเป้าหมาย

Back to top button