SCBAM เปิด Thai ESG e-class หนุนลงทุนยั่งยืน

นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) เปิดเผยว่า การพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ภาครัฐให้ความสำคัญ และมองว่าบริษัทที่มีหลักการบริหารที่รับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม รวมถึงการกำกับดูแลกิจการ (ESG: Environmental, Social, and Governance) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันเศรษฐกิจไทยให้มีการเติบโตที่ยั่งยืนได้

อีกทั้ง ปัจจุบันนักลงทุนมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีการปฏิบัติตามหลัก ESG เพิ่มมากขึ้น ทำให้กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ของ SCBAM เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นักลงทุนให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นกับโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่มั่นคงระยะยาวและยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่ง SCBAM มีกองทุน Thai ESG ที่ครบและตอบโจทย์ทุกสไตล์การลงทุน

ทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม กองหุ้น Active กองหุ้น Passive ที่นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนเพื่อจัดสรรและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเพื่อสนับสนุนทุกการลงทุนให้เกิดประโยชน์กับผู้ลงทุนอย่างสูงสุด SCBAM จึงเปิดกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Thai ESG e-class) พร้อมเพิ่มวงเงินลงทุนสำหรับกองทุนลดหย่อนภาษี e-class ให้สูงสุดถึง 300,000 บาท และไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมซื้อ ขาย และการจัดการตลอดระยะเวลาการลงทุน โดยสามารถลงทุนได้เฉพาะบนแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click เท่านั้น

ปัจจุบัน SCBAM มีกองทุน Thai ESG ให้เลือกลงทุนครบ 4 สไตล์ ทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม กองทุนหุ้น Active กองทุนหุ้น Passive โดยครั้งนี้ ได้เปิดเพิ่มกองทุนชนิด e-class พร้อมกันทุกสไตล์ ประกอบด้วย 1) กองทุน SCBTB(ThaiESGE) หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ไทยยั่งยืน (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) ลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ เสริมด้วยตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดี ที่โดดเด่นด้าน ESG เสนอขายครั้งแรกวันที่ 2 ก.ย. 67 – 16 ก.ย. 67

2) กองทุน SCBTM(ThaiESGE) หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ไทยผสมยั่งยืน (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) ลงทุนผสมยืดหยุ่นในตราสารหนี้ และหุ้นของบริษัทที่โดดเด่นด้าน ESG 3) กองทุน SCBTA(ThaiESGE) หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนแอคทีฟ (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) ลงทุนเชิงรุก คัดหุ้นไทยที่คำนึงปัจจัยด้าน ESG ในการดำเนินธุรกิจและมีมูลค่าน่าสนใจ และสุดท้าย

และ 4) กองทุน SCBTP(ThaiESGE) หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนพาสซีฟ (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) ลงทุนด้วยกลยุทธ์แบบ Optimization มุ่งสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี SETESG TRI

นางสาวศุภรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน e-class สามารถลงทุนได้ผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ที่เดียวเท่านั้น มีกองทุนให้เลือกลงทุนครอบคลุมทุกสินทรัพย์ทั่วโลก พร้อมกับสิทธิพิเศษยกเว้นค่าธรรมเนียม(*) โดยมีวงเงินการลงทุนสูงสุด 1 ล้านบาทต่อท่าน และเช่นเดียวกันกับกองทุนลดหย่อนภาษี e-class ซึ่งประกอบไปด้วย SSF e-class และ Thai ESG e-class ที่นักลงทุนจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนอย่างเต็มที่ จากการฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขาย-จัดการ และปีนี้มาพร้อมกับการขยายวงเงินลงทุนต่อท่านในกองทุนลดหย่อนภาษี e-class เป็น 300,000 บาท (นับรวมอยู่ในวงเงินของกองทุน e-class ทั้งหมด) เพื่อสนับสนุนการลงทุนเพื่อออมเงินของคนไทยให้เพิ่มมากขึ้น

การลงทุนในกองทุนรวมมิใช่การฝากเงิน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน Thai ESG กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึง สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://scbam.info/4dHG3HR หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ หรือสอบถามรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 02 777 7777 หรือ www.scbam.com

สนใจเปิดบัญชีลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.link/scbam_fund_click