WHA โอกาสว่าด้วยภูมิรัฐศาสตร์
จากการประชุมประจำปีเฟด Jerome Powell ส่งสัญญาณชัดเจนถึงความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวเข้าสู่เป้าหมาย 2%
จากการประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เมือง Jackson Hole ปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา Jerome Powell ส่งสัญญาณชัดเจนถึงความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวเข้าสู่เป้าหมาย 2% และถึงเวลาที่ FED ควรจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทำให้ตลาดประเมินว่า มีแนวโน้ม FED จะลดดอกเบี้ยครั้งแรกช่วงกลางเดือนนี้ จึงทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการปรับฐานหลังจากปรับเพิ่มขึ้นมากช่วงก่อนหน้าส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนเข้าสู่หุ้นและพันธบัตรในตลาดเกิดใหม่ Emerging Market (EM) ที่มีพื้นฐานดี
สำหรับตลาดหุ้นไทยการมาของ “กองทุนวายุภักษ์ (หนึ่ง)” และการเมืองมีเสถียรภาพ ทำให้ตลาดที่เคยเหี่ยวเฉา..กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น บรรดาหุ้น SET50-SET100 กลุ่ม Mid-Small Cap ที่มีคะแนน ESG กลายเป็นตัวเลือกแรก จนหลายหุ้นเริ่มเข้าเงื่อนไขที่ต้องถูกขายทำกำไรบ้างแล้ว
แต่ว่าหุ้นในธีมเกี่ยวเนื่องกับภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) เริ่มน่าสนใจมากขึ้น ช่วงเคานต์ดาวน์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นช่วงต้นเดือนพ.ย.นี้
ทำให้สงครามการค้า (Trade war) ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ยิ่งทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
“หุ้นนิคมอุตสาหกรรม” จึงดูน่าสนใจมากขึ้น เพราะรับกับธีมเทรดวอร์ทั้งในเชิงเซนทิเมนต์และปัจจัยพื้นฐาน หนึ่งในนั้นคือหุ้นบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ที่ยอดขายที่ดินเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากการย้ายฐานการผลิตจากทุนจีนและการขยายตัวของกลุ่มเทคโนโลยีระดับโลก
ล่าสุด WHA เซ็นสัญญากับลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ 400 ไร่ ที่ทำเกี่ยวกับด้านเทคโนโลยี พื้นที่นิคมอุสาหกรรมโซนจังหวัดชลบุรี
ส่งผลให้ยอดขายที่ดินไตรมาส 3/67 จะทำจุดสูงสุดใหม่ หลังก่อนหน้ามีการขายที่ดินให้กลุ่มไฮเออร์จากจีน 200 ไร่ และมีโอกาสบริษัทจะปรับเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้นอีกจากเดิม 2,400 ไร่
ปัจจุบัน WHA มี LOI และ MOU ที่รอเซ็นสัญญากับลูกค้าอีกราว 1,000 ไร่
ทำให้เหล่าบรรดานักวิเคราะห์ มีมุมมองเชิงบวกจากประเด็นข่าวดังกล่าว เนื่องจากทิศทางการขายที่ดินอยู่ในระดับสูง ทำให้ทิศทางรายได้และกำไรเป็นขาขึ้นต่อไป…
นอกเหนือไปจากปัจจัยการลงทุนในไทย จากนักลงทุนต่างประเทศ จากประเด็นความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์
ที่สำคัญโอกาสสร้างยอดขายระดับสูงต่อเนื่องอีก 2-3 ปีที่มาจากอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ ธุรกิจแบตเตอรี่และชิ้นส่วนยานยนต์
ส่วนดีมานด์เกี่ยวกับโลจิสติกส์ ยังอยู่ระดับสูง ถือเป็นการเพิ่มโอกาสกำไรปี 2567 ที่มีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่
พร้อมกันนี้รัฐบาลใหม่ ที่มีนโยบายสนับสนุนการลงทุนในไทย ถือเป็นปัจจัยส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสการทำธุรกิจของ WHA มากขึ้น
การเริ่มพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ทั้ง Mobilix และพลังงาน จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มระยะยาวและเป็นบวกต่อ WHA อีกทางหนึ่งเช่นกัน
จับตาแผนธุรกิจครึ่งปีหลังของ WHA ที่มีการแถลงวันนี้ (11 ก.ย.) ว่าจะมีการปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายที่ดินเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ เพราะว่านั่นคือตัวชี้วัดโมเมนตัมหุ้น WHA ได้อย่างชัดเจน..!?
เล็กเซียวหงส์