CCET ฤาไม่ดีอย่างที่คิด.?
ช่วงที่ผ่านมา กระแสเห่อหุ้นเทคในบ้านเราค่อนข้างวูบวาบ บทจะขึ้นก็ขึ้นแรงงงส์ บทจะลงก็ทิ้งดิ่งจนใจหาย เป็นหุ้นที่ถูกหยิบมาเก็งกำไรเป็นพัก ๆ
ช่วงที่ผ่านมา กระแสเห่อหุ้นเทคในบ้านเราค่อนข้างวูบวาบ บทจะขึ้นก็ขึ้นแรงงงส์ บทจะลงก็ทิ้งดิ่งจนใจหาย เป็นหุ้นที่ถูกหยิบมาเก็งกำไรเป็นพัก ๆ โดยล้อไปกับผลประกอบการของพี่เบิ้มของวงการอย่าง Nvidia และตลาดหุ้น Nasdaq…ซึ่งเป็นการเล่นกับเซนติเมนต์ล้วน ๆ…
แต่ถ้าดูปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเทคแต่ละตัว โอเค…แม้กำไรโต แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้าง เท่ากับว่าราคาหุ้นมาไกลกว่าปัจจัยพื้นฐานไปหลายช่วงตัวแล้วน่ะสิ
ขณะที่ผลประกอบการจริง ๆ อาจจะไม่ได้ดีเด่อย่างที่คิดก็ได้นะ..!?
อย่างบริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET ซึ่งทำธุรกิจเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภท EMS และ ODM ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แจ้งยอดขายประจำเดือน ส.ค. 2567 อยู่ที่ 11,866.18 ล้านบาท ลดลง 0.84% เมื่อเทียบกับยอดขายประจำเดือน ก.ค. ซึ่งอยู่ที่ 11,967.30 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 18.59% เมื่อเทียบกับยอดขายประจำเดือน ส.ค. 2566 ซึ่งอยู่ที่ 10,006.21 ล้านบาท
ถ้าดูจากยอดขายช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3/2567 ก็เปลี่ยนแปลงไม่มาก ซึ่งเหลือเดือน ก.ย. แค่เดือนเดียว ถ้าดูจากค่าเฉลี่ย 2 เดือนแรกก็คงไม่มากไปกว่านี้ละมั้ง…
บ่งบอกว่าก็ไม่น่าจะโตแรงแซงทางโค้งอ๊ะป่าว..??
หลายคนอาจจะเถียงคอเป็นเอ็นว่า ก็เห็นงบไตรมาส 2/2567 ของ CCET โตระเบิดเถิดเทิงอยู่นะ…โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 736.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนให้งบในช่วงหกเดือนแรกปี 2567 ฟาดกำไรสุทธิไป 1,277.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ใช่…โตจริง อันนี้ไม่เถียง
แต่ถ้าไปแคะแกะดูไส้ใน จะเห็นว่ากำไรที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้มาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่มาจากขาของต้นทุนที่ลดลงต่างหากล่ะ… ไล่มาตั้งแต่ต้นทุนขาย โดยในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 33,919.72 ล้านบาท คิดเป็น 94.33% ของรายได้จากการขาย ซึ่งลดลงจาก 94.90% ของรายได้ขายในไตรมาส 2/2566 และงวดหกเดือนแรกปี 2567 มีต้นทุนขายอยู่ที่ 63,923.74 ล้านบาท คิดเป็น 94.51% ของรายได้จากการขาย ซึ่งลดลงจาก 94.76% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 1,098.59 ล้านบาท คิดเป็น 3.06% ของรายได้จากการขาย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 3.02% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนงวดหกเดือนแรกปี 2567 มีค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารอยู่ที่ 1,857.31 ล้านบาท คิดเป็น 2.74% ของรายได้จากการขาย ซึ่งลดลงจาก 3.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ฟากค่าใช้จ่ายทางการเงินในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 88.90 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 83.74% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2566 โดยในงวดหกเดือนแรกปี 2567 มีค่าใช้จ่ายทางการเงินอยู่ที่ 327.80 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 68.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ขาของรายได้กลับลดลงซะงั้น…โดยในไตรมาส 2/2567 รายได้จากการขายอยู่ที่ 35,959.81 ล้านบาท ลดลง 10.61% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 ส่วนงวดหกเดือนแรกปี 2567 รายได้จากการขายอยู่ที่ 67,639.23 ล้านบาท ลดลง 14.50% เมื่อเทียบกับช่วงหกเดือนแรกของปี 2566
ซึ่งชัดเจนว่าการลดลงของรายได้จากการขายมาจากความต้องการของตลาดโลกโดยรวมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โอเค…ต้นทุดลดลง เป็นเรื่องดี…อันนั้นก็ใช่ แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าต้นทุนลดแล้วรายได้เพิ่มขึ้นด้วย เพราะนั่นจะหมายถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ดังนั้นการเห็นหุ้นเทคสหรัฐฯ เติบโตดี แล้วจะมาเหมารวมหุ้นเทคในบ้านเราโตดีด้วย…มันคนละเรื่องเดียวกันอ๊ะป่าว..??
ก็เป็นข้อมูลอ้างอิงให้สายเก็ง (กำไร) ได้ฉุกคิด…หากเข้าไปไม่ดูตาม้าตาเรือ อาจตกม้าตกเรือตายก็ได้หนาเจ้า..!?
เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน…
…อิ อิ อิ…