7 หุ้นพร้อมไปต่อ

ในเมื่อ “โมนิก้า” เลือกที่จะแทงสูงเพื่อย้ำหัวหมุดกับแฟนคลับว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม


ในเมื่อ “โมนิก้า” เลือกที่จะแทงสูงเพื่อย้ำหัวหมุดกับแฟนคลับว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม ก็ควรจะมีสักวันที่ให้พื้นที่สำหรับหุ้นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์แบบจัดเต็มกันไปเลย (วันนี้คัดเฉพาะพวก ESG ที่มีเรตติ้ง AAA) เพราะจะได้พิสูจน์ทฤษฎีเงินก้อนใหม่มีผลทำให้หุ้นเหล่านั้นไปต่อยาว ๆ ขณะเดียวกันก็เป็นการบอกซ้ำ ๆ ให้นักลงทุนหันมามองหุ้นกลุ่มนี้อีกครั้ง หลังจากเพลิดเพลินกับการเข้ามาเล่นเก็งกำไรกันพักใหญ่เจ้าค่ะ

ประกอบกับดัชนีอยู่ในช่วงพักตัวเพื่อทะยานขึ้นรอบใหม่ เลยเป็นโอกาสอันดีที่จะเล่าสตอรี่ของหุ้นต่าง ๆ ประกอบกันไปในคราวเดียวกันไปเลย เพราะอาการแกว่งตัวไปมาตลอดทั้งวันก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,436.60 จุด บวกไป 1.07 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.43 หมื่นล้านบาท มันกลายเป็นจังหวะดีสำหรับการทยอยเก็บหุ้นรอบใหม่ “โมนิก้า” ถึงไม่อยากให้แฟนคลับพลาดขบวนรถด่วนเที่ยวใหม่ก็เท่านั้นเองจ้า!

โดยเฉพาะในตัวตึงที่ขึ้นมาโชว์ตัวถี่ขึ้นอย่าง BANPU ถือเป็นหุ้นรายแรกที่ “โมนิก้า” อยากจะเอ่ยถึงมากสุดในเวลานี้ เพราะเมื่อดูจากการกลับตัวของราคาหุ้น ผสานกับเรื่องของผลงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ และตบท้ายด้วยบริษัทลูกเตรียมเข้าตลาดอเมริกา ล้วนเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นไปต่อยาว ๆ เดี๊ยนเลยเชื่ออย่างสนิทใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 6.50 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.19 พันล้านบาท ยังน่าลงทุนเจ้าค่ะ

ถัดมาเป็นรายของ WHA ก็มีสตอรี่มากมายเกี่ยวกับยอดขายที่ดิน และเรื่องกำไรครึ่งปีหลังโตได้อีก จึงกลายเป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบันในการเข้ามาเก็บหุ้น และการที่หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 5.60 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 306 ล้านบาท ก็ยังเป็นระดับที่น่าสนใจในแง่การลงทุน เพราะเมื่อดูการเทรดของหุ้นบน PE 15 เท่าเป็นฐาน..ใคร ๆ ก็คงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ซื้อได้นะจ๊ะ

เช่นเดียวกับตัวท็อปอย่าง ADVANC ก็ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ ก่อนระเบิดฟอร์มใหญ่ด้วยการพุ่งพรวดขึ้นไปถึงระดับ 270 บาท ก่อนจะถูกเทขายทำกำไรอย่างหนักหน่วง แต่ราคาหุ้นก็ยังประคองตัวอย่างยอดเยี่ยม จนวานนี้สามารถยืนปิดที่ระดับ 259 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.75 พันล้านบาท น่าจะเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นว่า ของเขาดีจริง..ไม่เช่นนั้นยืนระยะไม่ได้หรอกค่ะ

ส่วนรายที่ต้องกระเสือกกระสนนิดหน่อย แต่ก็ผ่านช่วงที่แย่สุดครั้งหนึ่งมาได้ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นปูนใหญ่ SCC เพื่อทำให้แฟนคลับเห็นภาพไปในทางเดียวกันว่า หากบริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับกำไรลดฮวบฮาบ มักจะถูกขายทิ้งแบบไม่มีเยื่อใยไมตรี และต้องลุ้นกันต่อไปว่า งวดนี้กำไรจะออกมาดีขนาดไหน? และการมาของกองทุนวายุภักษ์จะทำให้หุ้นไปไกลไหม? หลังวานนี้หุ้นย่อตัวลงมาปิดที่ 241 บาท ลบไป 8 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 447 ล้านบาทน่ะซี

ตรงกันข้ามกับในรายของเสือซุ่ม KTC เพราะรายนี้ไต่ระดับขึ้นช้า ๆ ในขณะที่หุ้นตัวอื่นวิ่งระเบิดเถิดเทิง “โมนิก้า” มาเห็นอีกที ราคาหุ้นก็มาไกลแล้ว (คิดดูซิ ก่อนหน้านี้ขยับไปมาในกรอบ 38-40 บาทเป็นเดือน แต่ทันทีที่หลุดกรอบดังกล่าวขึ้นไปได้ ก็เดินหน้าลูกเดียว) เดี๊ยนเลยอยากให้นักลงทุนประเมินการปิดที่ 46.25 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 303 ล้านบาท ยังน่าสนใจอ๊ะป่าว?

เช่นเดียวกับในรายของหุ้น BCP ออกอาการขาแข้งสั่นให้เห็นบ่อย ๆ มันผิดกับในช่วงที่ทำดีลควบรวมปั๊มเอสโซ่เสียจริง ๆ “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า การมาของกองทุนนกจะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน? เพราะสิ่งที่เห็นกับตาตัวเองก็คือ ราคาหุ้นไม่จี๊ดจ๊าด แถมในจังหวะนี้ก็อ่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 36.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 283 ล้านบาทแบบนี้..คืออิหยัง!

สำหรับตัวทีเด็ดที่มองจากมุมไหน ก็ยังสวยเหมือนเดิมทุกครั้ง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองไปที่หุ้นแบงก์สีฟ้า KTB เพราะรายนี้มาทุกครั้งที่รัฐบาลต้องการใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ และประชานิยม ผนวกกับเที่ยวนี้เป็นเป้าหมายหลักในการซื้อของกองทุน เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นทรงตัวในราคาสูงได้เป็นเวลานาน เพราะการยืนปิดที่ระดับ 20.50 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 699 ล้านบาท ก็แสดงว่า หุ้นพร้อมจะไปต่อนะตัวเอง

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button