WHA เป้าหมายมีไว้พุ่งชน

เส้นทางนักลงทุน

ถือเป็นปีที่โดดเด่นอย่างมากสำหรับบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เพราะเพียง 9 เดือนแรกของปี 2567 ผู้บริหารบริษัทประกาศปรับเป้าทางธุรกิจไปแล้ว 2-3 ครั้ง

WHA ประกอบธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม คือ 1.ธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics) 2.ธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม (Industrial Development) 3.ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities & Power) และ 4.ธุรกิจดิจิทัล (Digital Business)

โดยไฮไลต์ของ WHA อยู่ในด้านของธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม มีการปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินทั้งปี 2567 นี้ จากต้นปีเคยตั้งไว้ที่ 2,275 ไร่ มาเป็น 2,400 ไร่ และล่าสุดขยับขึ้นเป็น 2,500 ไร่ แต่ยอดนี้ก็ยังต่ำกว่ายอดขายที่ดินปี 2566 ที่เคยทําได้ 2,767 ไร่ (ในไทย 1,986 ไร่ เวียดนาม 781 ไร่)

ปีนี้ผู้บริหารมีความมั่นใจ โดยเฉพาะการขายที่ดินในประเทศไทย เนื่องจากได้เซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหญ่แล้ว 1 ราย ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อขายที่ดิน 300-400 ไร่

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาขายที่ดินอีกกว่า 600 ไร่ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวม ๆ แล้วครึ่งหลังของปีนี้น่าจะขายที่ดินได้มากกว่า 1,400 ไร่ จากในช่วงครึ่งปีแรกขายไปแล้ว 1,242 ไร่

ภาพรวมทั้งปีการขายที่ดินส่วนใหญ่มาจากการขายในประเทศไทยราว 2,300-2,400 ไร่ สำหรับเวียดนามนั้น ยอดขายยังต่ำ ประมาณ 100-200 ไร่ เนื่องจากนักลงทุนน่าจะรอความชัดเจนจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ดังนั้นผู้บริหาร WHA จึงจะรอดูในช่วงปลายปีอีกครั้ง

อุปสงค์ยอดขายที่ดินแข็งแกร่งเป็นผลจากการย้ายฐานการผลิตและการลงทุนสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเข้ามาของเงินลงทุนต่างประเทศ (FDI) โดยเฉพาะการย้ายฐานการผลิตมาในไทยและเวียดนาม

ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น (gross margin) ของธุรกิจนี้น่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงเกิน 60% จากการปรับราคาขายที่ดินเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีการประเมินว่ายอดขายที่ดินในไตรมาส 3 นี้ น่าจะเป็นจุดสูงสุด หรือจุด peak ของปี เพราะมีการขายที่ดินขนาดใหญ่ดังกล่าว

ในส่วนของธุรกิจโลจิสติกส์ ตั้งเป้าหมายพื้นที่ให้เช่าใหม่ และสัญญาเช่าใหม่รวม 200,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ครึ่งปีหลังจะส่งมอบพื้นที่ให้เช่าใหม่มากกว่า 140,000 ตร.ม. (Built to Suit) และแบบสำเร็จรูปกว่า 105,000 ตร.ม. จากลูกค้าในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มสุขภาพ และ 35,000 ตร.ม. จากโครงการแรกในจังหวัดฮึงเอียน (Hung Yen) ประเทศเวียดนาม ตลอดจนมีแผนการขายสิทธิการเช่าทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ WHAIR รวมทั้งสิ้นประมาณ 40,172 ตร.ม. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,065 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจรถบรรทุก EV ยังคงเป้าไว้ที่ 1,000 คัน สิ้นปีนี้

ด้านธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) ปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายน้ำรวมที่ 178 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความต้องการน้ำที่มากขึ้นของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม และปริมาณน้ำมูลค่าเพิ่มที่เพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ ๆ ธุรกิจไฟฟ้า ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้วเป็น 1,000 เมกะวัตต์ มาจากพลังงานสะอาด 472 เมกะวัตต์ เป็นพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา 283 เมกะวัตต์ และยังมุ่งเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งสอดรับกับแผนการลงทุนในโมบิลิกส์ (Mobilix) โดยมีเป้าหมายที่จะมีชาร์จเจอร์ 120 ตัว ในปีนี้ รวมถึงสถานีชาร์จที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 5,400 กิโลวัตต์ รวมทั้งแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจ New S-Curve เช่น ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่, เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน เป็นต้น

ธุรกิจดิจิทัล ยกระดับองค์กรในทุกมิติเพื่อบรรลุเป้าหมายในการก้าวสู่การเป็น Technology Company ในปี 2567 และเตรียมพร้อมสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในปี 2568 จะสร้างรายได้จากการให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ ๆ ควบคู่กับการพัฒนาความเชี่ยวชาญของทีมเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

มีไฮไลต์เพิ่มเติมสำหรับ WHA ก็คือ แผนการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รูปแบบคอนโดมิเนียมเพื่อขายให้ลูกค้าในนิคมฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้เข้ามาอีกทาง

หากจะวัดความโดดเด่นของ WHA จากราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา วิ่งไป 4.72% แต่หากเปรียบเทียบกับหมวดอุตสาหกรรมเดียวกัน บวกไป 13.99% ระหว่างทางราคาหุ้นเคลื่อนไหวต่ำสุด 4.50 บาท สูงสุด 5.70 บาท

ปี 2567 นี้ WHA มั่นใจทั้งรายได้-กำไร จะทำออลไทม์ไฮ สร้างสถิติใหม่เป็นปีที่ 3 จะกวาดรายได้รวมกว่า 15,000 ล้านบาท ดู ๆ แล้วไม่น่าจะมีปัญหา และน่าจะพุ่งชนเป้าหมายได้ไม่ยากนัก