NUSA-THG คนละเรื่องเดียวกัน.!
ในห้วงเวลาที่ตลาดหุ้นไทยค่อย ๆ ฟื้นความเชื่อมั่น แต่ดั๊นมามีสองเคสอื้อฉาวขึ้นมาอีกแล้วครับท่านน ทำเอาเสียมู้ด เสียบรรยากาศการลงทุนหม๊ดดดเลย
ในห้วงเวลาที่ตลาดหุ้นไทยค่อย ๆ ฟื้นความเชื่อมั่น แต่ดั๊นมามีสองเคสอื้อฉาวขึ้นมาอีกแล้วครับท่านนน แหม๊…ทำเอาเสียมู้ด เสียบรรยากาศการลงทุนหม๊ดดดเลย…ให้ตายสิพับผ่า..!!
สองเคสที่ว่า ก็กรณีอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA พร้อมพวกรวม 6 คน ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษฐานร่วมกันกระทำทุจริตซื้อโรงแรมประเทศเยอรมนี และห้องชุด NUSA ผ่องถ่ายเงินจาก NUSA เข้าบัญชีส่วนตัวและบุคคลใกล้ชิด อีกทั้งระหว่างสอบสวนใช้เอกสาร IFA อันเป็นเท็จอำพรางเจ้าพนักงานอีกต่างหาก
ส่วนอีกเคสเป็นกรณีบอร์ดบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG มีข้อสงสัยต่อธุรกรรมของ 2 บริษัทลูกที่ไปปล่อยกู้ให้กับบริษัทในกลุ่มครอบครัววนาสิน และการสั่งซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับมอบสินค้าจริง…
ไม่อยากจะเชื่อ…บริษัทจดทะเบียนที่ในยุคนี้ต้องให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาลจะมีเรื่องฉาวโฉ่อย่างนี้อีกเนอะ..??
แม้ทั้งสองเคสจะต่างกรรมต่างวาระกัน แต่โมเดลแทบไม่ต่างกัน เริ่มที่ NUSA ซึ่งมีตัวละคร 2 กลุ่มด้วยกัน…กลุ่มแรก “กลุ่มเทพเจริญ” ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม และ “กลุ่มกิตติอิสรานนท์” เป็นผู้ถือหุ้นใหม่…เดิมทีทั้งสองกลุ่มก็จูบปากแฮปปี้เอนดิ้งกันดี เพื่อหวังปลุกปั้น NUSA ให้เติบใหญ่ ด้วยการหันไปปั้นพอร์ตธุรกิจพลังงานทดแทน
เลยเป็นที่มาของการไปซื้อบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จากบริษัท ธนา พาวเวอร์ วัน จำกัด (TONE) โดยใช้วิธีออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อนำไปสวอปหุ้นกัน ก็ทำให้ “กลุ่มกิตติอิสรานนท์” นำโดย “เฮียประเดช กิตติอิสรานนท์” ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่แทนที่ “กลุ่มเทพเจริญ” ทันที..!!
ก็ไม่รู้ว่าทั้งสองกลุ่มไปขัดแข้งขัดขากันตอนไหน…จนนำมาสู่ความขัดแย้ง โดยมีช่วงหนึ่งที่เกิดการแย่งชิงอำนาจการบริหารกัน สุดท้าย “ณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ” คนของ “เฮียประเดช” ก็มานั่งรักษาการ CEO ส่วน “กลุ่มเทพเจริญ” โดยเฉพาะ “เจ๊หมวย”–ศิริญา เทพเจริญ กับ “เฮียวิษณุ เทพเจริญ” ก็หลุดจากบอร์ดไป
แต่ก่อนจะถึงจุดแตกหัก มีธุรกรรมชวนน่าสงสัย ไล่มาตั้งแต่การไปซื้อโรงแรมประเทศเยอรมนี ในราคาไม่สมเหตุสมผล การขายห้องชุดในราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมิน รวมทั้งการผ่องถ่ายเงินจาก NUSA เข้าบัญชีส่วนตัวอดีตผู้บริหารและบุคคลใกล้ชิด และกรณีการแสดงเอกสารและข้อมูลเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ก.ล.ต.กล่าวโทษ ทั้งการไซฟ่อนเงินและธุรกรรมอำพราง…
เป็นที่มาให้ “กลุ่มกิตติอิสรานนท์” ได้ทีรุกไล่…เห็นได้จากมติบอร์ดให้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ “เจ๊หมวย” และ “เฮียวิษณุ” พร้อมพรรคพวกทั้งทางแพ่งและอาญา…ก็ว่ากันไป
จาก NUSA มาถึง THG มีกลิ่นตุ ๆ เหมือนกัน…โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้น THG มี “กลุ่มวนาสิน” นำโดย นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ กับ “กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่…แต่หลังจากผู้นำอย่างหมอบุญโดนก.ล.ต.กล่าวโทษ ทำให้หลุดจากตำแหน่งประธานกรรมการไป ก็มีตัวตายตัวแทน คือ นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ มานั่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ในปัจจุบัน แต่อำนาจบอร์ดคุมโดย “กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง”
ล่าสุดบอร์ดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับธุรกรรมของ 2 บริษัทลูก คือ บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด (THB) ซึ่ง THG ถือหุ้น 83.03% และบริษัท ที เอช เฮลท์ จำกัด (THH) ซึ่ง THG ถือหุ้น 51.22% ที่ไปปล่อยกู้ให้กับบริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด (RTD) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มครอบครัววนาสิน จำนวน 145 ล้านบาท และ THB ปล่อยกู้ให้กับบริษัท ไทย เมดิเคิล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ RTD เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวน 10 ล้านบาท
ไม่หมดเท่านั้น ยังมีกรณีที่ THH จัดซื้อสินค้าทิพย์จากบริษัทซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ รวมเป็นเงิน 55 ล้านบาทอีกด้วย
ทั้ง 3 ธุรกรรมถูกพุ่งเป้าไปที่ผลประโยชน์ของกลุ่มครอบครัววนาสิน..!?
มิหนำซ้ำยังมีข้อมูลลึกแต่ไม่ลับจากผู้ไม่ประสงค์ออกนามออกมาสำทับอีกว่า แท้จริงแล้วหมอบุญมีหนี้สินส่วนตัวและหนี้สินเกี่ยวพันกับ THG สูงกว่า 7,000 ล้านบาท เชียวหนา
เรื่องนี้จริงเท็จประการใด และจะเกี่ยวพันกับ 3 ธุรกรรมน่าสงสัยหรือเปล่า..?? อันนี้มิอาจทราบได้
สงสัยเรื่องนี้ต้องถึงครูอังคณา อุ๊ย…ก.ล.ต.แล้วล่ะ..??
เอาเป็นว่า ทั้งสองเคสเป็นคนละเรื่องเดียวกัน โดย NUSA ชัดเจนว่าจบไปแล้ว (มีการกล่าวโทษไปแล้ว) ในขณะที่ THG เพิ่งเริ่มต้น ส่วนจะจบแบบเดียวกันหรือเปล่า..??
โปรดติดตามตอนต่อไป…
…อิ อิ อิ…