เปิดบัญชีมาร์จิ้น ดัดหลังผู้บริหารจอมตึ๊ง

ปรากฏการณ์ล่มสลายของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกรณีหุ้น SABUY มาสู่ NEX ลามไปที่ EA ต่อด้วย NRF จนมาถึง YGG


ปรากฏการณ์ล่มสลายของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกรณีหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY มาสู่บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ลามไปที่บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ต่อด้วยบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF จนมาถึงบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG

อ้อ…อีกรายที่น่าจะอยู่ในข่าย เป็นบริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX ที่ออกมาร้องแรกแหกกระเชอว่าหุ้นหาย..!? ไม่รู้ว่าตอนนี้หาเจอหรือยังน้อ..??

ปฏิเสธไม่ได้ว่า สาเหตุหลักเกิดจากการถูกบังคับขาย หรือ “ฟอร์ซเซล” นั่นแหละ…เป็นผลมาจากการที่ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่เอาหุ้นของตัวเองไปตึ๊ง หรือเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันทั้งในระบบ (ขอบัญชีมาร์จิ้นกับโบรกเกอร์) และนอกระบบ…เป็นต้นเหตุที่ทำให้หุ้นบางตัว แม้ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้มีปัญหา แต่ราคาปรับลงแรง ทำให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบไปด้วย

โอเค…แม้ตอนนี้จะมีการเปิดเผยรายชื่อหุ้นที่มีการนำไปเป็นหลักประกันในบัญชีมาร์จิ้นทุก ๆ เดือนอยู่แล้ว แต่ที่ยังเป็นช่องโหว่ของกฎหมายคือ การนำหุ้นไปตึ๊งนอกระบบ ดังนั้น เพื่อให้มากกว่านั้น และให้รู้ชัดไปเลยว่าใครบ้างที่นำหุ้นไปตึ๊งในระบบและนอกระบบ เลยเป็นที่มาให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมออกหลักกฎเกณฑ์ใหม่ให้มีการเปิดเผยรายชื่อหรือรายงานการนำหุ้นไปวางเป็นหลักประกัน

ก็น่าจะเป็นข้อมูลและสัญญาณบอกเหตุให้นักลงทุนได้ระมัดระวังตัวในการเข้าไปลงทุนในหุ้นตัวนั้น ๆ มากขึ้น

มองอีกทีก็เหมือนประจาน..อุ๊ย ดัดหลังผู้บริหารบจ. และผู้ถือหุ้นใหญ่สายตึ๊งเลยนะเนี่ย..!?

ก.ล.ต.วางไทม์ไลน์ไว้ว่า ภายในปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจน โดยจะเคาะหลักเกณฑ์และบังคับใช้ภายในปีหน้า 2568

แต่ระหว่างรอร๊อรอเกณฑ์ใหม่ก.ล.ต. มาดูกันหน่อยว่าหุ้นที่ถูกวางบัญชีมาร์จิ้นสูงสุด 20 อันดับแรกในเดือน ส.ค. 2567 มีบริษัทไหนบ้าง..?? โดยคัดมาเฉพาะหุ้นพิมพ์นิยมและมีสภาพคล่องสูงนะออเจ้า…

เริ่มที่อันดับ 1 บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM จำนวน 314.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 52.06%, อันดับ 2 บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI จำนวน 307.31 ล้านหุ้น คิดเป็น 51.22%, อันดับ 3 บริษัท เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAAM จำนวน 135.17 ล้านหุ้น คิดเป็น 45.06%, อันดับ 4 บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG จำนวน 2,610.95 ล้านหุ้น คิดเป็น 44.93%

อันดับ 5 บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 จำนวน 488.41 ล้านหุ้น คิดเป็น 40.39%, อันดับ 6 บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA จำนวน 472.83 ล้านหุ้น คิดเป็น 39.44%, อันดับ 7 บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN จำนวน 230.45 ล้านหุ้น คิดเป็น 30.76%, อันดับ 8 บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX จำนวน 238.31 ล้านหุ้น คิดเป็น 29.06%

อันดับ 9 บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD จำนวน 2,255.49 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.29%, อันดับ 10 บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP จำนวน 127.65 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.90%, อันดับ 11 บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM จำนวน 162.32 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.70%, อันดับ 12 บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ UKEM จำนวน 297.76 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.62%

อันดับ 13 บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA จำนวน 1,351.92 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.67%, อันดับ 14 บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART จำนวน 234.21 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.27%, อันดับ 15 บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ GLORY จำนวน 62.86 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.24%, อันดับ 16 บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III จำนวน 184.11 ล้านหุ้น คิดเป็น 22.79%

อันดับ 17 บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN จำนวน 2,462.56 ล้านหุ้น คิดเป็น 22.13%, อันดับ 18 บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND จำนวน 61.71 ล้านหุ้น คิดเป็น 21.28%, อันดับ 19 บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP จำนวน 291.74 ล้านหุ้น คิดเป็น 21.24% และอันดับ 20 บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW จำนวน 132.42 ล้านหุ้น คิดเป็น 21.22%

งั้นใครที่คิดจะเข้า-ออกหุ้นพวกนี้ ก็ระวังไว้หน่อยละกัน…

อาจกระเป๋าฉีกไม่ทันตั้งตัว…เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือน..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button