ทรงเริ่มไม่ดี?

ทุกครั้งที่ “โมนิก้า” เม้าท์ถึงเรื่องบุคคลต่าง ๆ มักทำให้ผู้คนรอบด้านสะดุ้งโหยงกันเป็นแถว ผนวกกับเดี๊ยนไม่ได้เม้าท์ถึงภาพรวมของตลาดหุ้นไทยมาระยะหนึ่ง


ทุกครั้งที่ “โมนิก้า” เมาท์ถึงเรื่องบุคคลต่าง ๆ มักทำให้ผู้คนรอบด้านสะดุ้งโหยงกันเป็นแถว ผนวกกับเดี๊ยนไม่ได้เมาท์ถึงภาพรวมของตลาดหุ้นไทยมาระยะหนึ่ง จึงขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเม้าท์ถึงตลาดหุ้นไทยแบบจัดเต็มดีกว่า เพราะอาการกวัดไกวไปมาร่วมสัปดาห์มันตีความได้ว่า หุ้นเตรียมตัวที่จะ ”ไปต่อ” กับหุ้นเริ่ม “หมดแรง” ซึ่งต้องดูรายละเอียดต่าง ๆ ประกอบกันหลายอย่างนะคะ

สำหรับจุดแรกที่ต้องดูก็คือ ความพยายามรักษาระนาบ 1,450 จุด โดยสามารถยืนเกาะเส้นแนวรับ 10 วันได้อย่างเหนียวแน่น (บวกลบ 5 จุด) ย่อมเป็นภาพที่ชี้ให้เห็นว่า ยังมีแรงรับหุ้นเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อเหลือบดูค่า Modified Stochastic โดยค่า %K ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 74 และอยู่ต่ำกว่า %D ก็มองในมุมดีได้ว่า ตลาดหุ้นไม่ได้อยู่ในเขตซื้อมากเกินไป รวมทั้งค่าของ MACD กับ RSI ก็อยู่ที่ระดับ 18 กับ 68 ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยพร้อมชู๊ตขึ้นไปใหม่นะจ๊ะ

ที่น่าสนใจคือ หากมองตัวเลขดังกล่าวเป็นที่ตั้ง ก็ต้องบอกว่า ไม่มีอะไรต้องกังวล แต่ถ้ามองจากลักษณะการเคลื่อนตัวจะเห็นว่า สัญญาณทุกตัวมีทิศทางอ่อนตัวลงอย่างชัดเจน และมีความเป็นไปได้ที่หุ้นไทยจะทิ้งตัวลงอีกครั้ง แต่โชคดีที่ยังมีเส้นแนวรับ 25 วันที่บริเวณ 1,417 จุดรอรับอยู่ จึงทำให้การยืนปิดที่ระดับ 1,448.83 จุด ลบไป 1.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.28 หมื่นล้านบาท ยังไม่ใช่เรื่องซีเรียสเจ้าค่ะ

สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ไม่ซีเรียสเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ เพราะดัชนีมีแก๊ปที่จะลงได้ประมาณ 20 จุด และถ้ามองตามหน้าเสื่อก่อนหน้านี้จะเห็นว่า แก๊ปดังกล่าวเป็นระดับที่นักลงทุนยอมรับได้ และตัวอีฉันก็ใช้สัญญาณเทคนิคดังกล่าวบอกเล่าความน่าจะเป็นให้แฟนคลับได้รับรู้เนือง ๆ ยกเว้นมีตัวแปรอื่นที่เหนือการควบคุมเข้ามากระทบ ก็ควรรีบชิ่งหนีกันก่อนก็เท่านั้นเอง

เหมือนกับในรายของ CPALL ที่สัญญาณเทคนิคอ่อนตัวลงมาเป็นแถว แต่ราคาหุ้นยังเกาะเส้นแนวรับ 10 วันได้อย่างเหนียวแน่น ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับประเมินกันว่า การรักษาระนาบ 65 บาทได้เกือบเดือน จนวานนี้ย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 65.50 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.08 พันล้านบาท มันน่ากลัวไหมล่ะ

ส่วนรายที่ทิ้งตัวลงมาเรื่อย ๆ อย่าง SCB ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะหุ้นค่อย ๆ หลุดแนวรับลงมาทีละแนว จนเหลือแนวรับสุดท้ายบริเวณเส้น 200 วันที่ราคา 106 บาทรอรับอยู่แบบนี้ ก็เป็นประเด็นนักลงทุนต้องประเมินด้วยตนเองว่า การยืนปิดที่ระดับ 109 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.03 พันล้านบาทเสี่ยงแค่ไหน? และควรไปรอช้อนที่แนวรับไหมจ๊ะ

สำหรับรายที่น่ากังวลจริง ๆ เพราะธุรกิจไม่สร้างแวลูเหมือนในอดีต แถมสัญญาณเทคนิคก็มุดหัวลงลูกเดียว “โมนิก้า” คงเหลือบมองไปที่หุ้น EASTW แบบไม่ลังเลใจ เพราะมองในมุมไหน ด้านไหน ก็ไม่มีอะไรดีสักอย่าง แถมก่อนหน้านี้เคยเห็นหุ้นลงไปนอนใต้ 2.50 บาทมาแล้ว เดี๊ยนเลยพูดได้คำเดียวว่า อย่ารนหาที่เลยคุณพี่! เพราะวันนี้สัญญาณเทคนิคช่วยไม่ได้จริง ๆ ยกเว้นใช้ดูเรื่องทำนิวโลว์นะออเจ้า

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมาดูหุ้น BKGI เพื่อชี้ให้เห็นสัญญาณเทคนิคทุกตัวผงกหัวขึ้นอย่างชัดเจน และยังมีแรงเก็งกำไรเข้ามาเป็นระลอก จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.98 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70 ล้านบาท โดยเที่ยวก่อนทำไฮไว้บริเวณ 3.22 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่แถว 3.50 บาท (2 ครั้งแล้วที่ไม่ผ่าน) เหมาะที่จะลุยช่วงสั้น ๆ ไหมตัวเอง

ตบท้ายกันที่หุ้น JPARK เพื่อชี้ให้เห็นเส้นแนวต้าน 75 วันที่บริเวณ 6.90 บาทยากที่จะฝ่าขึ้นไปได้ เพราะเป็นเวลา 2 เดือนครึ่งที่หุ้นยังฝ่าขึ้นไปไม่ได้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 6.85 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46 ล้านบาท มีโอกาสฝ่าแนวต้านดังกล่าวขนาดไหน? เพราะสัญญาณเทคนิคเริ่มผงกหัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียงน่ะซี

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button