ERW รับทรัพย์ 700 ล้าน ดึง “Lapis Hospitality” ถือหุ้น “HOP INN”

ERW รับทรัพย์ 700 ล้าน หลัง Lapis Hospitality จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน เอราวัณ ฮ็อป อินน์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เตรียมพร้อมก่อนเข้าจดทะเบียน SET หนุนขยายธุรกิจโรงแรมระดับบัดเจ็ท


นายยูเซฟ อิล คัมริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW แจ้งข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด (EHI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่ดำเนินกิจการโรงแรมในกลุ่มบัดเจ็ทภายใต้แบรนด์ HOP INN ทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่นในเอเซียแปซิฟิค ได้เข้าทำสัญญาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Share Subscription Agreement) (สัญญาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน) กับ Lapis Hospitality Pte. Ltd. (Investor) ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารจัดการโดยกองทุน Lombard Asia V, L.P. เพื่อให้ Investor จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 57,534,247 หุ้น หรือคิดเป็น 16.09% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เป็นจำนวนเงิน 700,000,000 บาท หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 12.17 บาทต่อหุ้น

ในการนี้ บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Agreement) (สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น) เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันนี้

ทั้งนี้ ธุรกรรมดังกล่าวจะบรรลุผลต่อเมื่อการดำเนินการต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในสัญญาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งรวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขบังคับก่อน โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน

โดยโครงสร้างการลงทุนใน EHI ก่อนและหลังการทำรายการเป็นดังนี้

การเข้าทำธุรกรรมสัญญาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น มีสาระสำคัญโดยสรุปดังนี้

1. EHI จะเริ่มดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายที่จะยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป ทั้งนี้ขึ้นกับผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของ EHI ตลอดจนสภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ไม่มีเงื่อนไขและข้อตกลงใดๆ ในการที่บริษัทฯจะรับซื้อหุ้นคืนจาก Investor

2. EHI จะดำเนินการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (ESOP- Warrant) ในสัดส่วนไม่เกิน 4% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้ว ให้แก่ ผู้บริหารและกรรมการ ของ EHI ในเวลาที่เหมาะสม โดยราคาใช้สิทธิจองซื้อไม่ต่ำกว่า 12.17 บาทต่อหุ้น

โดยการเข้าลงทุนใน EHI ของ Investor นี้จะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจโรงแรมระดับบัดเจ็ทของบริษัทฯ ภายใต้ แบรนด์ HOP INN ทั้งในประเทศไทยและในประเทศต่างๆ ในภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก โดยจะก่อให้เกิดความร่วมมือในการแสวงหาโอกาสในการเติบโตขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ระยะยาวที่จะเป็นผู้นำเครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทในเอเชีย แปซิฟิก ได้ตามเป้าหมายที่ได้ประกาศไว้

Back to top button