ERW นับหนึ่งสปินออฟ ‘ฮ็อป อินน์’

เห็น ERW แจ้งข่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดึง Lapis Hospitality Pte. Ltd. (Investor) ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารจัดการโดยกองทุน Lombard Asia V, L.P. เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน


เห็นบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW แจ้งข่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดึง Lapis Hospitality Pte. Ltd. (Investor) ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารจัดการโดยกองทุน Lombard Asia V, L.P. เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัทลูกในไส้ บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด (EHI) ที่ทำธุรกิจโรงแรมในกลุ่มบัดเจ็ทภายใต้แบรนด์ HOP INN ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก จำนวน 57.53 ล้านหุ้น คิดเป็น 16.09% ที่ราคาหุ้นละ 12.17 บาท คิดเป็นมูลค่า 700 ล้านบาท…

ถ้ามองชั้นเดียวเชิงเดียว เป็นการปรับสตรักเจอร์เพื่อเตรียมความพร้อมในการสปินออฟ “เอราวัณ ฮ็อป อินน์” เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2570 แหละ…ซึ่งเบื้องต้น “เอราวัณ ฮ็อป อินน์” จะได้เงินก้อนโต 700 ล้านบาท เข้ากระเป๋ามาก่อน เพื่อนำไปขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เติบโตต่อไป

แต่ที่มากกว่านั้น การเพิ่มทุนให้ Investor มาร่วมถือหุ้น “เอราวัณ ฮ็อป อินน์” น่าจะมีวาระซ่อนอยู่แหง ๆ…เชื่อหัวไอ้เรืองสิ

แน่นอน อันดับแรก ERW ได้สปินออฟ “เอราวัณ ฮ็อป อินน์” เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ปล่อยให้ลูกได้ออกไปหากินด้วยลำแข้งของตัวเอง ลดการพึ่งพาแม่ เนื่องจากจะมีช่องทางในการระดมทุนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มทุน กู้เงินแบงก์ ออกหุ้นกู้ ออกวอร์แรนต์ หรือออกตั๋วบี/อี

แต่ไฮไลต์พอ “เอราวัณ ฮ็อป อินน์” เข้าตลาดฯ ปุ๊บ…Valuation ก็จะเปลี่ยนปั๊บ โดย Valuation จะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของผลประกอบการ…ตรงนี้ ERW จะได้ประโยชน์ไปอีกขา

แล้วลองจินตนาการตามนะว่า หากถึงวันที่ “เอราวัณ ฮ็อป อินน์” เข้าตลาดฯ โอเค…Investor อาจจะถือยาวก็ได้ แต่ก็ไม่แน่อาจจะนำหุ้นเก่าบางส่วนออกมาขายก็ได้เช่นกัน..??

จากที่ถือหุ้น 16.09% เจียดขายสัก 5% ก็รับเละแล้ว…

อันนี้ทำได้ ไม่ผิดอะไร…ที่ผ่านมาก็มีหลายบริษัทที่ทำลักษณะนี้ เท่าที่จำได้มีบริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY ที่มี Darlex Limited (DARLEX) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพเข้าไปลงทุนก่อนจะเข้าตลาดฯ…พอ READY เข้าตลาดฯ DARLEX ก็ได้ขายหุ้นออกมา…

ถัดมาเป็น บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MEB ที่มีกลุ่ม B2S โดย Two Bees (HK) Limited เป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในฮ่องกงเข้าไปลงทุนใน MEB ก่อนจะเข้าตลาดฯ…พอเข้าตลาดฯ Two Bees (HK) Limited ก็เอาหุ้นเก่าบางส่วนออกมาขาย และปัจจุบันไม่ปรากฏการเป็นผู้ถือหุ้นแล้ว

ด้านบริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM รายนี้ถูกติฉินนินทาว่าวันแรกที่เข้าเทรดกองทุนไพรเวตฟันด์ อย่างนอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ โดมินิค คอมปานี (ฮ่องกง) นำหุ้นเก่าออกมาขายบางส่วน…แม้ยังจับมือดมไม่ได้ แต่อีกไม่นานคงได้รู้กัน

ที่จริงเป็นเรื่องปกติของกองทุนลักษณะนี้ ที่ลงทุนในสตาร์ตอัพระยะหนึ่งแล้ว เมื่อสตาร์ตอัพตั้งเนื้อตั้งตัวได้ ก็จะขายหุ้น ถอนทุนออกมา แล้วไปแสวงหาสตาร์ตอัพตัวใหม่ เพื่อสร้างผลตอบแทนต่อไป…ส่วนในมุมของสตาร์ตอัพก็จะมีเงินทุนไปขยายกิจการ สร้างการเติบโตได้

ส่วนกรณีของ “เอราวัณ ฮ็อป อินน์” กับ Investor จะเดินตามรอยหรือเปล่า…?? ต้องจับตากันต่อไป

กลับมาที่ ERW แม้จะทำให้จากที่เคยกินรวบใน “เอราวัณ ฮ็อป อินน์” (ถือหุ้น 100%) ก็จะเปลี่ยนมากินแบ่งแทน…ลดสัดส่วนการถือเหลือ 83.91% (มี Investor มาร่วมถือหุ้น 16.09%) ซึ่งคงทำให้รายได้และกำไรหายไปพอสมควร

เอาน่า…อย่างน้อย ๆ ก็มีคนมาช่วยคิดช่วยแชร์ไอเดียและเงินทุน…

สองหัวดีกว่าหัวเดียวนะจิบอกให้..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button