OKJ ลุกช้าจ่ายรอบวง

“โอ้กะจู๋” ไม่ใช่เป็นหุ้นที่ไม่ดี ในทางกลับกัน เป็นหุ้นที่มี Fundamental ที่ดีมาก ๆ แต่แน่นอนล่ะหุ้นที่มีพื้นฐานดี และเพิ่งเข้าตลาดฯ ย่อมมีแรงเก็งกำไรสูงมากเป็นธรรมดา


“โอ้กะจู๋” ไม่ใช่เป็นหุ้นที่ไม่ดี

ในทางกลับกัน เป็นหุ้นที่มี Fundamental ที่ดีมาก ๆ

แต่แน่นอนล่ะหุ้นที่มีพื้นฐานดี และเพิ่งเข้าตลาดฯ ย่อมมีแรงเก็งกำไรสูงมากเป็นธรรมดา

ทว่า แรงเก็งกำไรที่เกิดขึ้น ก็ไม่ควรเกินจาก “พื้นฐาน” ไปมากนัก

แม้จะมีการประเมิน การวิเคราะห์ว่า ปี 2567 โอ้กะจู๋ น่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 51% และปี 2568 อีก 33% (หลักทรัพย์ บัวหลวง คาดการณ์)

โอกะจู๋ มีราคา ณ ไอพีโอ ที่ 6.70 บาท

วันแรกของการเปิดเทรด ปิดตลาดที่ 12.40 บาท สูงขึ้น 5.70 บาท หรือ +85.07% จากราคาไอพีโอที่ 6.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 4,678.91 ล้านบาท

ระหว่างวันของการเทรดวันแรก ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 12.50 บาท

และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 10.10 บาท (ราคาเปิด)

วานนี้เป็นวันที่สองของการเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ

เดิมมองกันว่า ราคาไม่น่าจะไปต่อได้

เพราะวันแรกราคาปิดบวกจากไอพีโอแล้วถึง 85.07%

ที่ไหนได้….

โอ้กะจู๋ กลับสามารถทำราคาไปต่อได้อีก และขึ้นไปสูงสุด 14.60 บาท และมีพี/อี เรโชที่ประมาณ 50 เท่า

ราคาหุ้นที่ขึ้นไปยืนเหนือ 14.00 บาท ของวานนี้นั้น

มีแรงซื้อเข้ามามากกว่า 15 ล้านหุ้น

ขณะเดียวกัน ได้มีแรงขายออกมาราว ๆ 35-40 ล้านหุ้น

ทำให้ราคาหุ้นที่ดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าอย่างร้อนแรง ค่อย ๆ ลดระดับลงมาเรื่อย ๆ

และเปิดตลาดภาคบ่าย ราคาหุ้นยังซึมตัวลง มีแรงขายทำกำไรออกมา แม้ว่าระหว่างทางจะเห็นการซื้อกลับบ้าง แต่อาจจะเป็นการซื้อของคนที่ติดอยู่ข้างบน แล้วพยายามถัวเฉลี่ยราคา

แต่ก็สู้กับแรงขายทำกำไรออกมาไม่ได้

วานนี้ราคาหุ้นโอกะจู๋ปิด +0.50 บาท มาที่ 12.90 บาท หรือ +4.03% และมีมูลค่าการซื้อขาย 1,803 ล้านบาท (วอลุ่มเทรดเริ่มลดลง)

ในวันแรกแม้ว่าจะไม่ค่อยมีนักลงทุนเข้าไปติดหุ้นมากนัก เพราะราคาสูงสุดกับราคาปิดห่างกันเพียง 1 ช่อง

แต่สำหรับวานนี้ น่าจะมีคนติดหุ้นหรือ “ดอย” อยู่กันพอสมควร

ราคาปิดที่ระดับ 12.90 บาท มีระดับ พี/อี เรโชที่ 46.46 เท่า

ส่วนแนวโน้มวันนี้ ยังมองยากว่า ราคาหุ้นจะไปต่อหรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับ “ผู้ดูแลสภาพคล่อง” ของหุ้นนั่นแหละ

หากผู้ดูแลสภาพคล่อง ต้องการให้หุ้นโอ้กะจู๋มีสภาพคล่องที่สูงต่อไป คือนักลงทุนเล่นกันเยอะ ๆ

พวกเขาอาจจะเลือกเล่นหรือใช้วิธี “ตบจูบ”

ส่วนกราฟ หรือสัญญาณทางเทคนิค ยังดูยาก เพราะหุ้นเพิ่งเข้าเทรด (หรืออาจจะดูได้ ในส่วนที่เป็นราคาเคลื่อนไหวภายในวันนั้นได้เท่านั้น)

แต่โดยปกติแล้ว หากวันนี้หุ้นเปิดบวก ไม่ควรตาม

หากเปิดย่อ อาจจะพอลงไปรับได้ แต่ต้องลงไปรับให้ลึกกว่าราคาเปิดหลาย ๆ ช่องหน่อย แล้วเข้าทีละไม้

และหากรู้ตัวว่าเข้าพลาด ต้องรีบ “ตัดขาดทุนทันที” อย่าถือแช่

อย่างที่เคยบอกไปว่า สำหรับหุ้นไอพีโอและเพิ่งเข้าเทรด จะอยู่ในช่วงที่เรียกว่า “หุ้นไอพีโอ 30 วันอันตราย” เพราะราคาจะแกว่งสูงมาก

ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ที่ติดหุ้น (ไอพีโอ) กันนั้น

ก็มาจากการเข้าไปเล่นแล้วราคาทิ้งดิ่งแบบ “ลงลิฟท์” หรือค่อย ๆ ซึมลงแบบนี้

กว่าจะมารู้ตัว หรือตั้งสติได้ ก็ติดลบเป็นหลักสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว

นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า “ลุกช้าจ่ายรอบวง”

สำหรับราคาเป้าหมายของโอ้กะจู๋นั้น หลักทรัพย์ บัวหลวงให้ไว้ที่ 8.20 บาท

บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ให้ราคาไว้ 8.69 บาท

และบล.บียอนด์ ให้ราคาเป้าหมายมากสุด คือ 15.80 บาท

และที่ราคา Consensus ที่ 12.25 บาทต่อหุ้น

ธนะชัย ณ นคร

Back to top button