MAJOR:คาดกำไรปกติ 4Q58 วูบเหตุมีภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงลดลง
MAJOR มีมุมมอง Negative ต่อแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/58 คาดกำไรปกติลดลง -3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ -16% เทียบไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 176 ล้านบาท และกำไรสุทธิลดลง -15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ -49% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากมีภาพยนตร์ทำรายได้สูงลดลง
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (1 ก.พ.) ว่า บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR มีมุมมอง Negative ต่อแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/58 คาดกำไรปกติลดลง -3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ -16% เทียบไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 176 ล้านบาท และกำไรสุทธิลดลง -15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ -49% เทียบไตรมาสก่อนหน้า
เนื่องจากมีภาพยนตร์ทำรายได้สูงลดลง และไม่มีกำไรพิเศษเหมือนกับไตรมาสก่อนหน้ามีความกังวลต่อแผนการเร่งขยายสาขาของ MAJOR มากขึ้น เนื่องจากรายได้เติบโตไม่ทันกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มทำให้อัตราการทำกำไรของธุรกิจขายตั๋วชมภาพยนตร์หดตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 58
ปรับลดประมาณการกำไรปี 59-60 ลงจากเดิม 12-13% และปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 32.50 บาท (จากเดิม 34.50 บาท) อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าราคาหุ้น MAJOR ที่ลดลงราว 16% ในรอบ 1 เดือน สะท้อนมุมมองข้างต้นแล้ว และคาดให้ Dividend yield 3-4% ต่อปี คงคำแนะนำ (NEUTRAL, TP32.5)
