โบรกชู 4 หุ้นท็อปพิก รับอานิสงส์ “นักท่องเที่ยวจีน” ปี 67 พุ่งทะยาน 84%

โบรกชี้ยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 67 แตะ 34 ล้านคน โต 21% ลุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 6.5 ล้านคน โตทะลัก 84% ชู 4 หุ้นท็อปพิก AAV-AOT-MINT-BAFS ลุ้นกำไรไตรมาส 3/67 เติบโตแข็งแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ภาพรวมไตรมาส 4/67 (ต.ค.-ธ.ค.67) คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ตลาดนักท่องเที่ยวจีน เข้ามาเที่ยวไทยในช่วงหยุดยาววันชาติจีนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม 1.3 แสนคน แต่มีเข้ามามากกว่า 2 แสนคน ตั้งแต่วันที่ 1-7 ต.ค.67 โดยภาคเอกชนสะท้อนตัวเลขมาว่ายอดจองช่วงวันชาติจีน เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 200%

ดังนั้นเดือนที่เหลือช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 67 หากจะต้องการให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36.70 ล้านคน จะต้องดึงต่างชาติเที่ยวไทยเพิ่มอีก 20% อย่างไรก็ดีทางประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ที่ 2.9-3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็น New High จากนักท่องเที่ยว 38-40 ล้านคน

ทั้งนี้สอดคล้องกับฝ่ายนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ผ่านมาวันที่ 30 ก.ย.-6 ต.ค.67 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 638,159 คน เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 91,166 คน โดยประเทศมีเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นตามลำดับ ดังนี้

1) จีน 160,474 คน เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 114% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน, 2) เกาหลีใต้ 37,541 คน เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา และ 3) ลาว 25,080 คน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศมี % ลดลงตามลำดับดังนี้

1) อินเดีย 37,718 คน (18% เมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 2) มาเลเซีย 85,240 คน ลดลง 6% เมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดต่อเนื่องในวันชาติของทั้งสองประเทศ (จีนและเกาหลีใต้) ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาจำนวน 479,900 คน หรือเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา

รวมถึงและนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาจำนวน 158,259 คน หรือเพิ่มขึ้้น 11% เมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมาจากการเริ่มกลับมาเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป และสหรัฐอเมริกา สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-6 ต.ค.67 ทั้งสิ้นรวม 26,643,454 คน เพิ่มขึ้้น 30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ มองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดีเมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมาจากวันชาติจีน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะเป็นวันชาติจีนวันที่ 1-7 ต.ค.67 ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 160,474 คน เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 114% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นไปตามที่ ททท. คาดการณ์ไว้ที่ 132,000 – 183,000 คน เพิ่มขึ้น 57-144% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

โดยประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเฉลี่ยต่อสัปดาห์จะลดลงมาสู่ระดับปกติในช่วงสัปดาห์หน้าที่ระดับ 1.3-1.4 แสนต่อสัปดาห์ เพราะหมดเทศกาลวันชาติจีน ส่วนนักท่องเที่ยวรวมจะมีโอกาสจะกลับมาหดตัวเมื่อเทียบกับอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เช่นกัน

ทั้งนี้้ ภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 67 ยังอยู่ในกรอบประมาณการนักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนที่ประเมินไว้ โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น เรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยว ได้แก่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR

ทั้งนี้คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 67 เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 84% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 67 จะอยู่ที่ 34 ล้านคน เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 6.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 84% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ ทางฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวยังชอบ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, MINT และ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS

สำหรับ AAV ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.20 บาท แนวโน้มไตรมาส 3/67 จะยังมีกำไรปกติได้แม้จะอยู่ในช่วง low season จากผู้โดยสาร และค่าตั๋วโดยสารที่ยังดี ขณะที่ไตรมาส 4/67 จะดีขึ้นโดดเด่นจากการเริ่มเข้าสู่ high season

AOT ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/67 ไปจนถึงไตรมาส 2/68 ที่จะยังเติบโตดีต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

MINT ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท คาดว่าไตรมาส 3/67 จะเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนได้ต่อเพราะยังเป็น High season ที่ยุโรป โดยอัตราค่าห้องพัก (RevPAR) ที่ยุโรปยังเพิ่มขึ้นได้ดีที่ 15% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมี ADR เพิ่มขึ้นได้ 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนในไทยมี RevPAR เพิ่มขึ้นได้ที่ 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนไตรมาส 4/67 จะมี High season จากไทยและมัลดีฟส์ช่วยหนุน

BAFS ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น

Back to top button