“เจ้าพระยา” ชะลอระบายน้ำ 2,100 ลบ.ม./วินาที หวั่นท่วมชุมชนท้ายเขื่อน
เจ้าพระยา ปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเหลือ 2,100 ลบ.ม./วินาที ลดผลกระทบประชาชนพื้นที่ลุ่มต่ำ เขตปริมณฑลและกรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (10 ต.ค. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช.ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการแจ้งเตือนให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงวันที่ 13-24 ต.ค.67 ประกอบกับปัจจุบันพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่นอกคันกั้นน้ำเริ่มได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาที่ระดับ 2,200 ลบ.ม./วินาที ทำให้เกิดความกังวลว่าในช่วงน้ำทะเลหนุน จะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยานั้น
โดยล่าสุดที่ประชุม ศปช.ได้เน้นย้ำให้ กรมชลประทาน ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) วางแผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มชะลอตัวลง นำไปสู่การปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา
“วันนี้เวลา 15.00 น.จะปรับลดการระบายน้ำลงอีกเหลือที่ระดับ 2,100 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำที่เข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ริมคลองบางบาล โผงเผง แม่น้ำน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และลดความเสี่ยงของพื้นที่นอกคันกั้นน้ำในพื้นที่ จ.นนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร” นายจิรายุ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าติดตามในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน 16 จังหวัด ในภาคภาคตะวันตกและภาคใต้ โดยจากการติดตามการคาดการณ์ฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ขณะนี้มีพื้นที่ 16 จังหวัดทางภาคตะวันตกและภาคใต้ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง ได้แก่ ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, นครศรีธรรมราช, ตรัง, สตูล, พัทลุง, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส
ทั้งนี้ พื้นที่ 16 จังหวัดข้างต้นได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำ 552 เครื่องเข้าไปเตรียมความพร้อมจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมเตรียมเครื่องจักร เครื่องผลักดันน้ำ รวม 1,100 หน่วย พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที