THCOM วิ่งต่อ 3% รับข่าวคุมวงโคจร ตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก โบรกเคาะเป้าสูง 17 บาท

THCOM วิ่งต่อ 3% ผงาดคุมวงโคจร เตรียมปิดดีลกสทช. สัปดาห์หน้า รับใบอนุญาตวงโคจรดาวเทียมตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก “ปฐมภพ” ยันต้องเร่งส่งดาวเทียมรักษาสิทธิ์ของประเทศไทย ส่วนตำแหน่ง 51 และ 142E ยังไม่รีบ มั่นใจเกิดประโยชน์ต่อประเทศและผู้ถือหุ้นไทยคม โบรกเคาะเป้าหมาย 17 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ต.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)  หรือ THCOM ณ เวลา 10:39 น. อยู่ที่ระดับ 15.00 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 2.74% สูงสุดที่ระดับ 15.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 14.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 496.69 ล้านบาท

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THCOM เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า บริษัทลูกในเครือบริษัท ไทยคม (ถือหุ้น 100%) ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อขอใบอนุญาตการใช้วงโคจรดาวเทียมที่ตำแหน่ง 50.5, 51 และ 142 องศาตะวันออก ต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นรายเดียวที่ยื่นในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นรอบที่ 3 แล้ว จากก่อนหน้านี้ที่เปิดประมูลมา 2 รอบ แต่ไม่มีผู้สนใจเข้ายื่นประมูลเลย

โดยล่าสุดกสทช.มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ เนื่องจากวงโคจรดาวเทียมที่ตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก กำลังจะหมดอายุภายในวันที่ 27 พ.ย.นี้แล้ว หากประเทศไทยไม่ส่งดาวเทียมขึ้นไปรักษาวงโคจรนี้ไว้ ก็จะเสียสิทธิ์ดังกล่าวให้แก่ประเทศอื่น

“กำหนดเส้นตายคือ 27 พ.ย.นี้ ตามที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) กำหนด หากไม่มีผู้ใช้สิทธิภายในเวลาดังกล่าว ประเทศไทยก็จะเสียวงโคจรนี้ไป” นายปฐมภพ กล่าว

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากกับกสทช. คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นไทยคมจะนำดาวเทียมซึ่งเช่าจากประเทศอื่น ๆ ลากเข้าสู่วงโคจร 50.5 องศาตะวันออก เพื่อรักษาสิทธิ์ให้กับประเทศไทย ส่วนจะสร้างดาวเทียมดวงใหม่คงไม่ทัน เพราะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 ปี

ขณะที่ กสทช.กำลังพิจารณาข้อเสนอของไทยคมอยู่ แต่เรื่องนี้จะต้องเร็วที่สุด ส่วนวงโคจรดาวเทียมที่ตำแหน่ง 51 และ 142 องศาตะวันออก นั้นยังมีเวลาให้พิจารณาอยู่ ซึ่งบริษัทจะพิจารณาเงื่อนไขแยกเป็นแต่ละวงโคจร สัญญาสัมปทานแต่ละสัญญา 20 ปี

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในวงโคจรดาวเทียมที่ตำแหน่ง 50.5, 51 และ 142 องศาตะวันออก ไม่ได้สูงมาก ส่วนบริษัทจะนำไปทำธุรกิจด้านใดบ้าง อยู่ระหว่างกำลังพิจารณาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและผู้ถือหุ้นของไทยคม

โดยปัจจุบันไทยคมเป็นเจ้าของใบอนุญาตดาวเทียม 78.5, 119.5 และ 120 องศาตะวันออก เป็นเวลา 20 ปี ซึ่งส่งผลให้อำนาจในตลาดธุรกิจดาวเทียมภายในประเทศเพิ่มขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านโทรคมนาคม กล่าวว่า หลังจากการยื่นข้อเสนอ กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติและข้อเสนอจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 ต.ค. 2567 และจะมีการเจรจาต่อรองในวันที่ 11 ต.ค. 2567 ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกสทช. ในวันที่ 16 ต.ค. 2567 คาดว่าผลการพิจารณาจะสามารถประกาศได้ภายในวันที่ 17 ต.ค. 2567 ทั้งนี้หากการพิจารณาไม่แล้วเสร็จทันเวลา จะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมกสทช.อีกครั้งในวันที่ 24 ต.ค. 2567 และอาจประกาศรายชื่อผู้ได้รับใบอนุญาตในวันที่ 24 หรือ 25 ต.ค. 2567

สำหรับประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในตำแหน่ง 50.5, 51 และ 142 องศาตะวันออก เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าร่วมเสนอแผนงานเพื่อรับสิทธิ์สำคัญนี้ โดยไม่กำหนดราคาขั้นต่ำในการอนุญาต และไม่มีการจัดชุดของข่ายงานดาวเทียม

โดยการอนุญาตจะดำเนินการผ่านการพิจารณาเปรียบเทียบข้อเสนอของผู้สมัคร โดยต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาอย่างเข้มงวด ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญดังนี้ ความพร้อมในการรักษาสิทธิ์ใช้วงโคจรดาวเทียม (40%) ประสบการณ์ในการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้อง (25%) ความสามารถด้านการเงินและข้อเสนอการวางหลักประกัน (20%) ข้อเสนอผลตอบแทนให้แก่รัฐ (15%)

ทั้งนี้ ผู้ได้รับอนุญาตต้องเสนอผลตอบแทนให้แก่รัฐไม่น้อยกว่า 0.25% พร้อมจัดให้มีดาวเทียมของตัวเองหรือมาตรการเพื่อรักษาสิทธิ์ตามระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต ขณะที่การพิจารณาแต่ละเกณฑ์จะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 50% ของแต่ละหัวข้อ เพื่อให้ผ่านการคัดเลือก ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และเงื่อนไขการสมัครได้จากประกาศของกสทช.

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คงคำแนะนำ “ซื้อ” THCOM อิงราคาเหมาะสม 17 บาทต่อหุ้น สำหรับการประมูลวงโคจรรอบใหม่ของกสทช. ปรับสองเกณฑ์สำคัญเป็น Beauty Contest ไม่ต้องจ่ายค่าวงโคจรในการประมูล และไม่ต้องรักษาวงโคจรด้วยการยิงดาวเทียมของตัวเองภายใน 5 ปี ทำให้ THCOM ไม่มีต้นทุนการประมูลและมีทางเลือกในการรักษาวงโคจรเพิ่มขึ้น หาก THCOM เข้าประมูลจริง แต่ผลกระทบด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก็จำกัดเช่นกัน สุทธิแล้วมองเป็นความพยายามที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับภาครัฐเพื่อโอกาสอื่น ๆ ในอนาคตมากกว่า

โดยช่วงที่เหลือปีนี้ THCOM มีลุ้น 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1)ลุ้นการได้รับอนุมัติจากหน่วยงานในประเทศอินเดีย เพื่ออนุญาตการใช้งานดาวเทียม THCOM8 ในตลาดอินเดีย หากสำเร็จจะทำให้ THCOM ขึ้นวงโคจรได้อย่างช้าในปี 2568 2)ลุ้นการเปิดประมูลบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) รัฐบาลอินเดีย รอบใหม่ที่หากเกิดขึ้นตลาดจะกลับมาเก็งกำไรโอกาสปิด Presale ดาวเทียม THCOM 10 เพิ่มเติม 3)ลุ้นการประมูล USO ประเทศไทยเฟสใหม่ที่จะมีขนาดใหญ่กว่ารอบก่อน ในช่วงปลายปี 2567 ถึงต้นปี 2568

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุ กสทช.เร่งจัดสรรสิทธิวงโคจรดาวเทียมด้วยกฎเกณฑ์ที่ผ่อนคลาย คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำลังเร่งจัดสรรช่องวงโคจรดาวเทียมที่ 50.5 และ 142 องศาตะวันออก ภายในวันที่ 27 พ.ย. 2567 เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยสูญเสียสิทธิ์

โดยเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2567 มีการจัดประชุมเพื่อรับสมัครการเข้าร่วมของภาคเอกชนกสทช. มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่ามีการใช้วงโคจรและได้ผ่อนคลายข้อกำหนดบางประการ เช่น อนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถรับตำแหน่งดาวเทียมได้โดยไม่ต้องมีดาวเทียมในวงโคจรจริง โดยมุ่งเน้นการรักษาสิทธิ์ดาวเทียมของประเทศไทย เกณฑ์การประเมินหลัก ประกอบด้วย ความพร้อมในการรักษาสิทธิวงโคจร (40%), ประสบการณ์ทางธุรกิจ (25%), ความสามารถทางการเงิน (20%) และข้อเสนอผลตอบแทนการลงทุน (15%)

ทั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีในการรักษาความสามารถในการแข่งขันของ THCOM โดยเป็นผู้ร่วมประมูลเพียงรายเดียว หากได้รับใบอนุญาต ก็ไม่มีความจำเป็นต้องลงทุน และ THCOM จะเป็นผู้ถือใบอนุญาตช่องวงโคจรทั้งหมดของประเทศไทย ส่งผลให้ตำแหน่งในตลาดมั่นคงขึ้น และเพิ่มอุปสรรคต่อผู้เข้ามาใหม่ ทั้งนี้กสทช.น่าจะประกาศผลการประมูลภายในวันที่ 17 ต.ค. โดยใบอนุญาตใหม่จะช่วยให้ THCOM สามารถสร้างหรือเช่าดาวเทียมใหม่ได้หากมีโอกาสในอนาคต ดังนั้นแนะนํา “ซื้อเก็งกำไร”

Back to top button