บอร์ด “Fin Hub” เห็นชอบตั้ง “ศูนย์กลางการเงิน” ปักธง 6 ธุรกิจเป้าหมาย

เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดผลการประชุม บอร์ด “Fin Hub” เห็นชอบกรอบแนวทางการจัดตั้งศูนย์กลางทางการเงิน เพื่อยกร่างกฎหมาย ชู 6 ธุรกิจเป้าหมาย เน้นลูกค้าต่างชาติ โดยช่วงแรกใช้ กทม. เป็นฐาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ต.ค.67) นาย เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายและยกร่างกฎหมายเพื่อจัดตั้งศูนย์กลางทางการเงิน (Fin Hub) ว่าที่ประชุมเห็นชอบกรอบแนวทางการจัดตั้งศูนย์กลางทางการเงิน เพื่อยกร่างกฎหมายต่อไป

โดยธุรกิจเป้าหมายที่อยู่ในแผน Fin Hub ได้แก่ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจระบบการชำระเงินและบริการชำระเงิน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ธุรกิจประกันภัย และธุรกิจอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจเป้าหมายของ Fin Hub ได้แก่ นิติบุคคล และสาขาของนิติบุคคลต่างประเทศ ที่ให้บริการแก่นิติบุคคลหรือบุคคลที่ไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย (Non-residents) โดยห้ามชักชวนและให้บริการลูกค้าในประเทศไทย (No Solicitation) และมีสถานที่ตั้งของผู้ประกอบธุรกิจในระยะแรกจะเริ่มในพื้นที่ กรุงเทพและปริมณฑล

สำหรับขอบเขตการดำเนินธุรกิจที่สามารถเข้าร่วม Fin Hub ได้แก่ ธุรกิจที่ระดมทุนจากต่างประเทศเพื่อลงทุนในต่างประเทศ (Out-out) ในระยะแรก และพิจารณาธุรกิจที่เป็นการระดมทุนจากต่างประเทศเพื่อลงทุนในประเทศไทย (Out-in) โดยไม่ให้ขัดกับเงื่อนไข Non-Residents ในระยะต่อไป

นายเผ่าภูมิ ยังระบุว่า เงื่อนไขเกี่ยวกับสถานประกอบการที่จะเข้าร่วม Fin Hub จะมีการกำหนดให้มีเงื่อนไขขั้นต่ำในเขตที่กำหนด เช่น เงื่อนไขการจ้างงาน ระยะเวลาการประกอบธุรกิจ การมีสำนักงาน เป็นต้น โดยให้อำนาจ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางทางการเงินในการกำหนดเงื่อนไข และหลักเกณฑ์

พร้อมกันนี้ยังให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางทางการเงิน (One-stop Authority: OSA) ขึ้นใหม่ในรูปแบบหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ โดยหน้าที่ของ OSA ได้แก่ กำหนดแนวทางการส่งเสริมธุรกิจเป้าหมาย และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งสิทธิประโยชน์ที่เป็นตัวเงิน เช่น สิทธิประโยชน์ทางภาษี และสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่น การให้ Fast Track VISA การอนุมัติใบอนุญาตทำงานคนต่างด่าว (Work Permit) การจ้างงาน เป็นต้น และกำหนดเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง และประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอใบอนุญาต และพิจารณาอนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต หรือให้ความเห็นชอบ หรือรับจดทะเบียนเพื่อประกอบธุรกิจเป้าหมาย

นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์ (ข้อเสนอเบื้องต้น) โดยให้เป็นอำนาจของ OSA ต่อไป ได้แก่ นิติบุคคลเข้าข่ายบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ต้องปฏิบัติตาม GloBE Rules ของ Pillar 2 และกรณีนิติบุคคลอื่น สามารถกำหนดอัตราภาษีที่ต่ำว่ากรณีนิติบุคคลที่เป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ได้ โดยอาจกำหนดแบบเป็นลำดับขั้น (Tier) หรืออัตราคงที่ สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อาจพิจารณาเป็นอัตราผ่อนปรน สำหรับภาษีหัก ณ ที่จ่าย เงินปันผลและดอกเบี้ยที่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้โครงการฯ จ่ายให้กับบริษัทแม่ หรือบริษัทในเครือในต่างประเทศ อาจพิจารณาเป็นอัตราผ่อนปรน

Back to top button