จีนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ “ออกบอนด์เพิ่ม” 2 ล้านล้านหยวน อัดเม็ดเงินเข้าระบบ

จีนประกาศมาตรการกระตุ้นด้านการคลังครั้งใหม่ ออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านหยวน หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจขยายตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จีนประกาศจะเพิ่มหนี้ของรัฐบาลขึ้นอย่างมากเพื่อให้เงินอุดหนุนแก่ผู้มีรายได้น้อย, สนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มเงินทุนให้กับบรรดาธนาคารของรัฐ อันเป็นความพยายามที่จะฟื้นฟูการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ด้านหลัน ฝออัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีนเปิดเผยในการแถลงข่าวว่า รัฐบาลกลางมีพื้นที่อย่างมากที่จะก่อหนี้เพิ่ม และในปีนี้จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามวัฏจักรมากขึ้น

ทั้งนี้ตลาดการเงินทั่วโลกได้คาดการณ์อย่างมากเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังของจีน หลังจากการประชุมผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ในเดือนก.ย. ซึ่งคณะกรรมการกรมการเมืองแสดงความเร่งด่วนมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งตลาดหุ้นจีนแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยพุ่งขึ้น 25% ภายในไม่กี่วันหลังจากการประชุมดังกล่าว ก่อนปรับตัวลงเมื่อมีความวิตกกังวลเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการใช้จ่ายของรัฐบาล

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานในเดือนก.ย.ว่า จีนวางแผนที่จะออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านหยวนในปี 2567 อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นด้านการคลังครั้งใหม่ ครึ่งหนึ่งของเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ช่วยรัฐบาลท้องถิ่นในการจัดการกับปัญหาหนี้สิน ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งจะถูกใช้ในการอุดหนุนการซื้อเครื่องใช้ในบ้านและสินค้าอื่น ๆ รวมถึงให้เงินช่วยเหลือรายเดือนประมาณ 800 หยวนต่อเด็กหนึ่งคนแก่ทุกครอบครัวที่มีบุตรสองคนขึ้นไป

อีกทั้งสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า จีนกำลังพิจารณาอัดฉีดเงินทุนมากถึง 1 ล้านล้านหยวนให้กับบรรดาธนาคารรายใหญ่ที่สุดของรัฐ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนเศรษฐกิจ โดยหลัก ๆ ผ่านทางการออกพันธบัตรรัฐบาลใหม่

ทั้งนี้ การออกหนี้เพิ่มในจีนนั้นจะต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐสภา เมื่อปลายเดือนก.ย. ธนาคารกลางจีนประกาศมาตรการสนับสนุนทางการเงินเชิงรุกมากที่สุดสำหรับเศรษฐกิจนับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อช่วยดึงภาคอสังหาริมทรัพย์ออกจากภาวะถดถอยรุนแรงที่ยาวนานมาหลายปี รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนอง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามาตรการดังกล่าวได้ช่วยหนุนราคาหุ้นจีน แต่นักวิเคราะห์หลายคนยังคงกล่าวว่า จีนจำเป็นต้องจัดการกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่หยั่งลึกมากขึ้น เช่น การกระตุ้นการบริโภค และการพึ่งพาที่มากเกินไปกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

ส่วนธนาคารพาณิชย์ของรัฐรายใหญ่ที่สุด 4 แห่งประกาศในวันนี้ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ค้างชำระตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.นี้ โดยจะปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้จำนองลงต่ำกว่าระดับดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ถึง 0.30% โดยมาตรการนี้สอดคล้องกับคำสั่งของธนาคารกลางจีนในช่วงปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดภาระสินเชื่อจำนองของเจ้าของบ้าน เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ และความต้องการภายในประเทศที่ซบเซา

Back to top button