พาราสาวะถี
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ กรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดติดตลก แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ขำตามไปด้วย หลังยุบพรรคก้าวไกล
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ กรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดติดตลก แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ขำตามไปด้วย หลังยุบพรรคก้าวไกลแล้วบอกว่า “พรรคประชาชนต้องขอบคุณตนเองที่ยุบพรรค ทำให้ได้เงินบริจาคถึง 20 ล้าน” จนล่าสุด มีหนังสือจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงถึงสภาผู้แทนราษฎร ระบุ การแสดงความคิดเห็นของ อุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีดังกล่าว เป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับข้อกฎหมายพรรคการเมือง ในการสัมมนาทางวิชาการของศาลรัฐธรรมนูญ
มิได้เป็นการแสดงความคิดเห็นอันมีลักษณะเป็นการเสียดสี หรือประชดประชันพรรคการเมืองใด ที่จะส่งผลต่อความเป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติ ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาวินิจฉัยคดี ไม่กระทบกระเทือน หรือก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แก้เกี้ยวกันไปตามระเบียบ ความจริงท่วงทำนอง การแสดงความเห็นลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
เมื่อคราวยุบ 3 พรรคการเมือง พลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย ก็มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนไปยอมรับในเวทีเสวนาทางวิชาการแบบนี้ว่า ยุบตามกระแสกดดันของม็อบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเวลานั้น มันจึงทำให้สังคมตั้งคำถามจนกลายเป็นการล้อกันถึงกระบวนการยุติธรรมที่มีปัญหา ในยุคที่มองกันว่าตุลาการภิวัตน์จะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้บ้านเมือง กลับเป็นตุลาการภิบัติ กระทั่งมาถึงยุคนิติสงครามในปัจจุบัน สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหากมองในแง่ความเป็นสากล ก็จะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนใครในโลก จนถูกค่อนขอดอย่างเจ็บแสบว่า ประเทศกูมี หรือ ไทยแลนด์ โอนลี่
แต่ก็อีกนั่นแหละ ไม่ต้องไปถามหาความรับผิดชอบหรือการสรุปบทเรียนใด ๆ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ล้วนแต่มาจากการ “มีเส้น” ไม่ว่าจะม็อบที่เป็นสารตั้งต้น จนนำไปสู่ขบวนการยึดอำนาจ และทำเรื่องต่าง ๆ ไปสู่การตัดสิน วินิจฉัย ต่างเกิดข้อกังขาทั้งสิ้น มาถึงยุคนี้พวกม็อบมีเส้นไม่อาจเดินเกมเหมือนที่เคยทำมาได้ จึงหันมาใช้วิธีการยื่นร้องเรียนสารพัดเรื่องเพื่อเอาผิดฝ่ายกุมอำนาจ ยิ่งรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ที่เพิ่งทำงานได้แค่เดือนเศษ
ทำให้พวกนักร้องทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ มีงานทำกันเป็นล่ำเป็นสัน กระสุนถูกป้อนให้ไม่ยั้ง เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังมีทั้งความอยากและความแค้นอยู่ในตัว เลยทุ่มไม่อั้น มูลเหตุที่ทำให้เกิดภาพเช่นนี้ มาจากกติกาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ ทำให้คนเข้าใจแตกต่างหลากหลาย มีการอ่านกฎหมายแล้วตีความกล่าวหาเรื่องต่าง ๆ กันตลอดเวลา ที่ต้องยอมรับอีกเรื่องก็คือการตีความโดยกว้าง และกระบวนการพิจารณาที่ล่าช้าขององค์กรรับเรื่อง ก็ทำให้เกิดช่องว่าง เปิดทางให้พวกนักร้องทำมาหากินกันสนุกสนาน
ปัญหาที่เกิดขึ้น พงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี มองว่า ระบบแบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ คนที่เสียประโยชน์คือประชาชน หากโครงสร้างระบบกฎหมายทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ ประเทศก็จะเดินไปได้ลำบาก และมีปัญหาต่อระบบบริหารราชการแผ่นดิน เวลารัฐบาลจะทำอะไร ก็ต้องรอบคอบ ใช้เวลามากกว่าปกติ บางทีก็ต้องทำเผื่อไว้ก่อน จากสิ่งที่เกิดขึ้น ควรจะมีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อสร้างระบบ ตรวจสอบถ่วงดุลที่เหมาะสม ไม่ใช่ถ่วงอยู่กับอำนาจหนึ่ง รัฐบาลควรเป็นรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งพอที่จะมีระบบตรวจสอบที่ดี ไม่ใช่ให้รัฐบาลทำอะไรไม่ได้
เห็นความจริงกันแล้วว่ารัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงนั้น ดูดีแค่ชื่อเรียกขาน อาจจะมีส่วนที่เป็นประโยชน์อยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่เป็นปัญหาดูเหมือนจะมีไม่มากแต่ทำให้เกิดอุปสรรค สร้างปัญหาต่อการพัฒนาประเทศอย่างใหญ่หลวงเป็นเรื่องที่ควรจะต้องคิด วิเคราะห์กันว่า ต้องสังคายนากันแบบไหน พรรคการเมืองที่พยายามเตะถ่วง เล่นเกมไม่ยอมให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นโดยเร็ว โดยใช้ สว.เป็นเครื่องมือนั้น ควรต้องสำเหนียกกันให้มาก
สำหรับกรณีการยื่นร้องเอาผิด ทักษิณ ชินวัตร กับ พรรคเพื่อไทย ล่าสุดนั้น พงศ์เทพชี้ว่า ไม่ได้กังวลต่อข้อกล่าวหา มีพฤติการณ์เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่อยากให้ศาลรีบจัดการเรื่องที่ไม่มีมูลให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อที่จะได้ไม่มีคนมาร้องอีก เพราะหากใช้เวลานาน จะทำให้นักร้องรู้สึกมีความหวังว่าจะได้ผล คงต้องใช้ความอดทนกันอย่างเดียว เนื่องจากระยะหลังจะเห็นได้ว่า ทุกครั้งที่จะมีการตัดสิน ก็จะมีการอธิบายเสียยืดยาวชี้แจงกระบวนการ ระยะเวลาว่าไม่ได้ล่าช้า เรียกได้ว่า มีการแก้ต่างเพื่อทำให้สังคมเห็นว่าองค์กรไม่ใช่ตัวถ่วงความเจริญของประเทศแต่อย่างใด
เห็นความเคลื่อนไหวของคนพวกนี้แล้วชวนให้นึกสะอิดสะเอียนต่อความคิด และวิธีการ คิดว่าคนส่วนใหญ่โง่ดักดาน การตีมึน หน้าด้านอ้างความชอบธรรมต่าง ๆ นานา ทั้งที่ความจริงคือเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องทั้งสิ้น บางทีอาจถึงเวลาที่ต้องให้บทเรียนกับพวกหน้าเดิม ไม่ว่าจะพวกออกหน้าแสดงตัว หรือคนอยู่เบื้องหลัง การยื่นร้องล่าสุด ทำให้เห็นว่าที่ประกาศปาว ๆ จะเป็นข่าวใหญ่โต สุดท้ายก็เป็นเรื่องการสางแค้น เอาคืน ที่ไม่ใช่วิสัยนักเลง เป็นแค่อันธพาลข้างถนน จะเล่นงานคนที่ตัวเองท้าชก แต่กลับใช้มือปืนรับจ้างมาจัดการแทน เหมือนพวกอีแอบ หรือพวกลอบกัดเสียมากกว่า
เห็นพฤติกรรมแบบนี้แล้วก็อดสมเพชไม่ได้ ผิดกับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่มานั่งตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ โดยประกาศชัดว่า เมื่อจะมาช่วยงานตรงนี้ไม่ต้องลับ ๆ ล่อ ๆ เมื่อรับที่จะเข้ามาก็ต้องเปิดเผยตัวตนให้สาธารณชนได้รับรู้ พร้อมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งก็ถูกต้อนรับทันทีด้วยการจะยื่นร้องเอาผิดจากหลายพวก นั่นก็ทำให้เห็นอาการดิ้นของพวกที่กลัวการมาของเสี่ยเต้น ทั้งที่รู้กันว่าตำแหน่งดังกล่าวไม่ได้เป็นข้าราชการการเมืองที่มีผลตอบแทน หรือมีผลผูกพันทางกฎหมายใด ๆ แต่ก็ขอให้ต่อต้าน หาเหตุเพื่อดิสเครดิตไว้ก่อน นี่แหละที่เขาเรียก พวกปากกล้าขาสั่น ของแท้ นักรบชั้นสวะแค่เห็นเงาของศัตรูก็หัวหดเสียแล้ว
อรชุน