ต่างชาติซื้อหุ้นกลุ่มไหนมากสุด?

นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิออกมา 14 วันต่อเนื่องกันเกือบ 2 หมื่นล้านบาท

ต่างจากในช่วงเดือนกันายน 2567 ที่มียอดซื้อสุทธิ 3.3 หมื่นล้านบาท

มีการวิเคราะห์กันไปว่าต่างชาติเข้ามาดักซื้อหุ้นไทยก่อนที่กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะเริ่มเข้ามาซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 หลังจากนั้น หรือเมื่อซื้อ จึงเกิดการ (ขาย) ทำกำไรระยะสั้น

หรือพูดง่าย ๆ เทขายให้กับกองทุนรวมวายุภักษ์ฯ

การวิเคราะห์ตรงนี้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่ทราบเหมือนกัน

อาจจะใช่ หรือไม่ใช่ก็ได้

แต่มีอยู่คำถามจากนักลงทุนที่ต้องการทราบคำตอบ นั่นคือ แล้วต่างชาติมีสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยเท่าไหร่กันแน่ แล้วที่ยังถืออยู่ ลงทุนในหุ้นกลุ่มไหนมากสุด

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทำข้อมูลออกมาน่าสนใจ

เพราะจากการศึกษาข้อมูลการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 821 บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 16.80 ล้านล้านบาทหรือ 97.8% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด (Total Market Capitalization)

สรุปประเด็นสำคัญได้คือ

ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567 นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยมีมูลค่ารวมกว่า 5.18 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้น 1.37% จากสิ้นปี 2566

โดยมูลค่าการถือครองหุ้นคิดเป็น 30.80% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด

กลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก คือ

1.กลุ่มเทคโนโลยี

2.กลุ่มธุรกิจการเงิน

และ 3.กลุ่มบริการ

การถือครองหุ้นทั้ง 3 กลุ่มอุตสาหกรรมมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 3.81 ล้านล้านบาทคิดเป็น 73.54% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ

หมวดธุรกิจที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่

1.หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON)

2.หมวดธนาคาร (BANK)

3.และหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)

โดยหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังคงอยู่ในอันดับ 1 ต่อเนื่องจากสิ้นปี 2566

โดย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567 ทั้ง 3 หมวดธุรกิจ มีมูลค่าถือครองหุ้นรวม 2.78 ล้านล้านบาท คิดเป็น 53.62% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ

75.22% ของมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเป็นการถือครองหุ้นที่อยู่ในองค์ประกอบของMSCI Thailand Index ใกล้เคียงกับ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566

นักลงทุนต่างประเทศที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 10 สัญชาติแรก พบว่ายังคงเป็นสัญชาติเดียวกันกับปีก่อนแต่มีสลับอันดับ

นักลงทุนจากสหราชอาณาจักรมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด

ตามมาด้วยนักลงทุนจากสิงคโปร์ ฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา

ส่วนอันดับที่ 6-10 สลับอันดับจากปีที่ผ่านมา

โดยอันดับที่ 6 คือ เนเธอร์แลนด์ และตามมาด้วยญี่ปุ่น ไต้หวัน ฝรั่งเศส และมอริเชียส ตามลำดับ

ธนะชัย ณ นคร