ถมไม่(รู้)เต็มแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
แล้ว...บริษัทโทรคมนาคมที่หวังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งของไทยอย่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ก็เพิ่มทุนอีกครั้ง จากทุนเดิม 9.8 หมื่นล้านบาท
แล้ว…บริษัทโทรคมนาคมที่หวังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งของไทยอย่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ก็เพิ่มทุนอีกครั้ง จากทุนเดิม 9.8 หมื่นล้านบาท
ถามว่าเพิ่มทุนครั้งล่าสุดนี้เป็นครั้งที่เท่าไร
ตอบได้เพียงแค่ว่า….อย่าไปจำเลย จำได้ก็ลืม..รู้แค่ว่าเพิ่มมาหลายครั้ง และนี่เป็นครั้งล่าสุด ซึ่งคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แล้วก็อาจจะมีเพิ่มทุนอีกหลายครั้งใน 3 ปีข้างหน้า…นักวิเคราะห์หลายสำนักว่ากันอย่างนั้น
นักลงทุนคงต้องหวนไปคิดถึงเพลงเก่าแก่ครั้งสุเทพ วงศ์กำแหง ท่อนที่ว่า…ถมเท่าไหร่ ไม่รู้จักเต็ม …สำหรับบริษัทนี้ เมื่อคิดจะเข้าซื้อและถือ TRUE
การเพิ่มทุนครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่มีการคาดหมายว่า ในสิ้นงวดปี 2558 นี้ TRUE จะสามารถจ่ายปันผลเป็นปีแรก นับแต่ก่อตั้งบริษัทเป็นต้นมา และหลังจากที่ได้รับชัยชนะค้าใบอนุญาต 4 จี 2 ใบรวดทั้งระบบ 1800MHz และ 900 MHz โดยที่ใบหลัง จำเป็นต้องกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์มหาศาล นับแสนล้านบาท
นับแต่เข้าระดมทุนจดทะเบียนเมื่อปลายปี 2536 หรือเมื่อ 22 ปีก่อน TRUE ได้ทำการเพิ่มทุนย่อยๆ หลายครั้ง วนเวียนกับวัฏจักร “กู้-เพิ่มทุน-กู้-เพิ่มทุน” ซ้ำซาก แต่มีการเพิ่มทุนใหญ่ 2 ครั้งที่เป็นจุดพลิกผันสำคัญ คือในปี 2554 และ 2557
ปี 2554 TRUE เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 77,757.42 ล้านบาทเป็น 145,031.79 ล้านบาท แต่ได้เงินสดมาจริงแค่ 1.31 หมื่นล้านบาทเพราะขายต่ำกว่าพาร์ จากความต้องการเงินเข้าไปซื้อกิจการต่อจากกลุ่มฮัทชิสัน ที่ถอนตัวออกจากการร่วมทุนกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เพราะว่า TRUE มีโครงสร้างหนี้เป็นจำนวนมาก โดยหวังว่าจะใช้ประโยชน์จากการร่วมทุนดังกล่าว เข้าสู่การเป็นผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์มือถือ 3G ที่ดัดแปลงและพัฒนาจากคลื่น 850 MHz ก่อนคู่แข่งรายอื่นๆ
หลังการเพิ่มทุนครั้งนั้น ราคาหุ้นของ TRUE ที่ซื้อขายในตลาด วิ่งขึ้นโดดเด่นอีกครั้ง ด้วยความคาดหวังของนักลงทุนว่า บริษัทจะกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง แต่ข้อเท็จจริงผลประกอบการของ TRUE ยังไม่กระเตื้องขึ้น ขาดทุนสุทธิมากขึ้น
ฐานะของการเงิน TRUE ดูดีขึ้นเมื่อปลายปี 2556 สามารถตั้งกองทุน TRUEIF มูลค่า 7 หมื่นล้านบาทได้สำเร็จ สามารถขายสินทรัพย์เข้ากองทุนเกือบหมด แต่เม็ดเงินที่ได้รับมาก็ถูกนำไปใช้หนี้มากกว่าใช้ลงทุนเพื่อสร้างรายได้ใหม่ ต้องเพิ่มทุนครั้งใหญ่อีกครั้ง
สิ้นไตรมาส 2 ของปี 2557 การขาดทุนต่อเนื่อง ทำให้ TRUE มีส่วนผู้ถือหุ้นลดเหลือแค่ 6,227.62 ล้านบาท ต้องเพิ่มทุนใหญ่อย่างเร่งด่วนเพื่อให้ส่วนผู้ถือหุ้นปลอดภัย ด้วยจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นมหาศาล 10,077.71 ล้านหุ้น กำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุน 6.45 บาท
ครั้งนั้น พอประกาศเพิ่มทุน ราคาหุ้นก็วิ่งแรงอีกครั้งขึ้นไปยืนเหนือ 12 บาท …ทำลายความเชื่อและสูตรทั่วไปทางการเงินที่ว่า เพิ่มทุนเมื่อใด จะเกิด share dilution ตามจำนวนหุ้น…ว่ากันว่าเพราะหุ้นTRUE มีเจ้าภาพดูแล…จริงหรือไม่ ถามเจ้าสัวใหญ่ ธนินทร์ เจียรวนนท์เอาเถอะ
ครั้งนี้ TRUE ประกาศว่าจะเพิ่มทุนอีกไม่เกิน 15,000 ล้านหุ้น เพราะต้องการเงินครั้งนี้อีก 60,000 ล้านบาท โดยหุ้นเพิ่มทุนนี้ จะขายแบบ RO เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน ซึ่งยังไม่ได้ระบุชัดเพราะขึ้นกับเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้ว่า ไม่ได้กำหนดราคาเสนอขายตายตัว แต่กำหนดคำนวณจากผลลัพธ์ของ 0.9 คูณด้วย ราคาเฉลี่ยการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2559 จนถึงวันที่ 30 มีนาคม 2559 รวมเป็นเวลา 20 วันทำการ ซึ่งบริษัทจะแจ้งราคาที่แท้จริงในวันที่ 31 มีนาคม 2559
หากพิจารณาจากสูตรนี้ จะเห็นว่า ราคาหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขาย น่าจะอยู่ระหว่าง 4.00-6.50 บาท เพราะคงขายไม่แพงนักเนื่องจากต้องการเงินเอามาแก้ปัญหาการลงทุน 4G ที่จะต้องก่อหนี้อีกหลายแสนล้านบาทในอีกหลายปีข้างหน้า
จากงบการเงินจะเห็นว่า TRUE มีตัวเลข D/E สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2558 อยู่ที่ระดับ 2.2 เท่า ดังนั้น หากจะสร้างหนี้ต่ออีกในรูป bridge loan ระยะสั้น ประมาณ 1 แสนล้าน เพื่อได้ใบอนุญาต4G มาครอบครอง จะทำให้D/E พุ่งขึ้นไป 3.4 เท่า ดังนั้น การเพิ่มทุนอีก 6 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้ D/E ลดลงมาที่ระดับ(เจ้าหนี้)รับได้ คือ 2.5-2.6 เท่า
เงื่อนไขของการเพิ่มทุนนั้น เปิดทางให้กับการ “ดันดารา”อย่างยิ่ง เพราะระบุเอาไว้ว่า จะปล่อยให้ราคาหุ้นลอยตัวในเดือนมีนาคม แล้วเอาค่าเฉลี่ยที่ 90% มาคำนวณเป็นราคาขาย…หุ้นมีเจ้าภาพอย่าง TRUE นั้น ใครว่า “ดันดารา”ไม่ได้ ..ขออย่าเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยเลย เพราะไร้เดียงสาเกินไปที่จะเป็นนักลงทุน
การที่นักลงทุนพากันเทขายหุ้น TRUE เมื่อวานนี้ เพราะมีนักวิเคราะห์หลายสำนักระบุว่า จะมี share dilution หลังการเพิ่มทุนที่ระดับ 29-38% กับราคาและจำนวนหุ้นที่เสนอขายต่อนักลงทุน (อาจจะเป็นสัดส่วนหุ้นเดิม 7 หุ้น ต่อหุ้นใหม่ 1 หรือ หุ้นเดิม 8 ต่อหุ้นใหม่ 1) และอาจจะต้องมีการเพิ่มทุนระลอกใหม่ อีกภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า เป็นเรื่องธรรมดา..
รอบก่อนๆก็เป็นแบบนี้ คือ…หุ้นร่วงวันแรก วันต่อมาก็วิ่งขึ้นและขึ้นไปต่อเนื่องหลายวันทำการ เพราะนักวิเคราะห์อีกกลุ่มหนึ่งจะออกมาเชียร์ให้ซื้อ โดยอ้างเหตุผลว่าเงินกองทุนเข้มแข็งและเหมาะสำหรับการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคม..อะแฮ่ม
ใครไม่คุ้นกับสูตรนี้บ้าง…ยกมือขึ้น
สูตรเพิ่มทุนแล้วราคาวิ่งนี่ เป็นสูตรจำเพาะ…ห้ามเลียนแบบ
เหตุผลก็เพราะ TRUE นั้น มีวี่แววจะเพิ่มทุนอีกหลายครั้ง ในฐานะหุ้น “ถมไม่เต็ม”…ยังไงล่ะ…อิ อิ อิ
ไม่เชื่อถามเจ้าสัวน้อย ศุภชัย เจียรวนนท์ เอาเองก็แล้วกัน