“เฮียฮ้อ” มั่นใจ RS ควบ GIFT สร้าง “ซินเนอร์ยี่” โกยรายได้ปี 70 ทะลุหมื่นล้าน  

“สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” มั่นใจ RS ควบ GIFT สร้าง “ซินเนอร์ยี่” โกยรายได้ปี 70 ทะลุหมื่นล้าน ชู RSXYZ เรือธงทำธุรกิจ Consumer Lifestyle เพื่อเชื่อม Ecosystem ดันเติบโตก้าวกระโดดทั้งกลุ่ม พร้อมกางแผนสปินออฟ RS Entertainment-RS pet all เข้าตลาดฯในปี 70-71


นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้(16 ต.ค.67) ว่า จากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้อนุมัติแผนการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทฯให้เข้าลงทุนในบริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT โดยบริษัทฯขายธุรกิจบางส่วน ได้แก่ บริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด และธุรกิจหน่วยงาน อาร์เอส มอลล์ ให้กับ GIFT ในขณะที่ GIFT มีการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) ให้อาร์เอส กรุ๊ป จึงส่งผลให้ RS เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ GIFT ในสัดส่วน 49.99% พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัท“GIFT Infinite” เป็น “RSXYZ”

สำหรับแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่นี้ถือว่าเป็นปีที่สำคัญในมุมของ RS ซึ่งมีการปรับโครงสร้างตั้งแต่ต้นปีไม่ว่าจะเป็นการปรับทีมผู้บริหาร และจัดกลุ่มธุรกิจให้เข้าที่เข้าทางและสอดรับกับทิศทางธุรกิจในอนาคต ซึ่งใช้เวลามาเกือบทั้งปีจนมองว่าเข้าที่เข้าทาง ขณะที่ GIFT ซึ่งบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่มองว่าพัฒนาการของ GIFT ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงวันนี้เป็นบริษัทที่เจริญเติบโตอย่างดี และเข้าไปทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนตามแผนได้อย่างดี และมองว่าจังหวะนี้น่าจะถูกที่ถูกเพื่อให้เกิดดีลดังกล่าว

“ในมุมมองในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง RS และ GIFT บางครั้งในการทำธุรกิจต่างๆมีข้อจำกัดเยอะและเกิดคอนฟิกบางส่วน และมองว่าด้วยศักยภาพของ RS ทั้งในเรื่องของการทำธุรกิจ Media Entertainment รวมถึงธุรกิจ Commerce มีความแข็งแรง และธุรกิจของ GIFT ในหลายมิติสามารถที่จะเชื่อมโยงกันได้ ดังนั้นจึงมองว่าการทำดีล RS ควบรวม GIFT ถือเป็นจุดมุ่งหมายของผมและได้นำเสนอไอเดียเสนอบอร์ด RS และ GIFT ทุกคนเห็นชอบมองว่าจะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 บริษัท”

สำหรับการควบรวมกิจการในครั้งนี้ มีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 5,068.2 ล้านบาท โดย อาร์เอส ซื้อหุ้นสามัญของ GIFT รวมไม่เกิน 1,206.7 ล้านหุ้น แบ่งเป็น

1.) หุ้นสามัญเพิ่มทุน PP (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 651.8 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.2 บาท

2.) หุ้นสามัญ GIFT จาก คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ จำนวนไม่เกิน 238.5 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.2 บาท และ

3.) หุ้นสามัญ GIFT จาก บจก. เชษฐโชติ โฮลดิ้งส์ จำนวนไม่เกิน 316.5 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.2 บาท

โดยการถือหุ้นของ อาร์เอส ใน GIFT คิดเป็นสัดส่วน 49.99% และหลังการควบรวมกิจการในครั้งนี้ จะส่งผลให้ คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ และกลุ่มเชษฐโชติศักดิ์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งของ อาร์เอส ในสัดส่วนไม่เกิน 36%

ทั้งนี้แหล่งที่มาของเงินทุนมาจากการที่ RS ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน PP เสนอขายให้กับนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ และกลุ่มเชษฐโชติศักดิ์ จำนวน 364.2 ล้านหุ้น ที่ราคา 6.4 บาท รวมเป็นมูลค่า 2,330.8 ล้านบาท และการจำหน่ายธุรกิจ RS Livewell ให้กับ GIFT ด้วยมูลค่ารวม 2,737.4 ล้านบาท นอกจากนี้ยังปรับโครงสร้างธุรกิจให้ RS Mall ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท ไปอยู่ภายใต้การดูแลของ GIFT

นายสุรชัย กล่าวอีกว่า ภายหลังการควบรวมกิจการดังกล่าวมองว่าจะสร้าง synergy โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจ GIFT ซึ่งมี 3 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจไอทีอินโนเวชั่น ซึ่งได้เข้าไปลงทุนซื้อหุ้น A Lot Techs (อะลอตเท็ค) มีการเติบโตได้ดี,2.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม(R&B) และ3.ธุรกิจ Health and Beauty โดยจะเห็นว่าทั้ง 3 ธุรกิจของ GIFT เข้าถึงผู้บริโภคเกี่ยวข้องกับ consumer และ Lifestyle ปัจจุบัน

ในขณะที่ RS ในมุมเรื่องของธุรกิจ Entertainment และมีเดียสามารถเข้ามาเชื่อมโยงและซัพพอร์ตและสามารถ synergy กับธุรกิจ GIFT ได้มากขึ้น อีกทั้งธุรกิจ Product Company ของบริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด และ อาร์เอส มอลล์ ซึ่งมีฐานลูกค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะ “ลิฟเวลล์” เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Health and Beauty ทางอ้อม

ดังนั้นเมื่อนำธุรกิจมารวมกับธุรกิจ GIFT จะทำให้สามารถเข้าถึงฐานลูกค้า ขณะเดียวกันก็จะสามารถใช้ศักยภาพของ RS เข้าไปสนับสนุน และเมื่อเชื่อมโยง Ecosystem ของ RS และ GIFT ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและฐานลูกค้าให้ใหญ่ความและเข้าถึงมากยิ่งขึ้น และทำให้ความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจชัดเจนมากขึ้น ในขณะที่ RS ก็จะใช้ GIFT เป็นแขนหลักในการทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับ Consumer Lifestyle ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Product Company ,สกินแคร์, Health and Beautyรวมถึงและสไตล์ไอที

ทั้งนี้รายได้หลังจากดีลนี้เสร็จสมบูรณ์ RS จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ GIFT ในสัดส่วน 49.99% นั่นหมายความว่าบริษัท RS จะรับรู้กำไรของ GIFT เข้ามาโดยคาดการณ์ RS ในปี 2568 จะมีรายได้ทะลุเกิน 7,000 ล้าน และกำไรจะปรับตัวสูงขึ้น โดยสัดส่วนรายได้ 7 พันล้านบาท จะมาจากส่วนของ RS ราว 3 พันล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งรับรู้มาจาก GIFT ราว 4,500 ล้านบาท

สำหรับภาพรวม GIFT ในปีหน้าก็จะเปลี่ยนชื่อเป็น RSXYZ นั่นหมายความว่า GIFT จะเป็นเรือธงของ RS จะเป็นเรือธงในการทำธุรกิจ Consumer Lifestyle โดยจะเป็นกลุ่มเป้าหมาย GEN X ,Gen Y, Gen Z ในขณะที่ RS ก็จะมุ่งสร้างธุรกิจภายใต้โครงสร้างใหม่ ซึ่งมาจาก RS Music & Entertainment 25%, RSXYZ (GIFT เดิม) 65% และ RS pet all 10% พร้อมทั้งวางเป้ารายได้ RS จะเติบโตแตะ 1 หมื่นล้านบาทในปี 2570 บนโครงสร้างธุรกิจใหม่ พร้อมแผนนำ RS Entertainment เข้าตลาดในปี 2027 และมีแผนนำ RS pet all เข้าตลาดฯปี 70-71

Back to top button