NER นำทีม “หุ้นยาง” บวกคึก! รับราคา “นิวไฮ” รอบ 13 ปี เซ่นฝนหนักกดผลผลิตลด

NER นำทีม STA-TEGH-TRUBB บวกแรง รับราคายางพุ่งทำจุดสูงสุดในรอบ 13 ปี เซ่นฝนตกหนัก รวมถึงไต้ฝุ่นกระทบผลิตลดลง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ต.ค.67) ณ เวลา 15:20 น. ราคาหุ้น บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER อยู่ที่ระดับ 5.05 บาท บวก 0.17 บาท หรือ 3.48% สูงสุดที่ระดับ 5.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33.65 ล้านบาท

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA อยู่ที่ระดับ 20.70 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 1.47% สูงสุดที่ระดับ 20.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 20.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 205.56 ล้านบาท

บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH อยู่ที่ระดับ 3.32 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 1.84% สูงสุดที่ระดับ 3.34 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.28 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10.30 ล้านบาท

บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB อยู่ที่ระดับ 1.17 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 0.86% สูงสุดที่ระดับ 1.18 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.14 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.94 ล้านบาท

โดยราคาหุ้นในกลุ่มยางปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ หลังมีการรายงานข่าวว่า จากกรณีฝนมรสุมที่ตกหนักในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางอันดับ 1 ของโลก และความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นในจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางอันดับ 5 ของโลกนั้น ทำให้ผลผลิตยางลดลง ส่งผลให้มีการคาดการณ์แนวโน้มการผลิตลดลง และดันราคายางพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี

นักวิเคราะห์และผู้ค้าประมาณการว่า ผลผลิตยางธรรมชาติซึ่งส่วนใหญ่ผลิตในเอเชียนั้นจะลดลงมากถึง 4.5% ในปี 2567 มาอยู่ที่ราว 14 ล้านตัน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การคาดการณ์ผลผลิตที่ลดลงทำให้ราคายางพุ่งขึ้นมากกว่า 50% แล้วในปีนี้ และทำให้ยางเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวได้ดีที่สุดในปี 2567 โดยสัญญายางมาตรฐานในตลาดโอซากาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีที่ 419.7 เยน (2.81 ดอลลาร์) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ข้อมูลจากเฮลิกซ์แท็ป เทคโนโลยีส์ (Helixtap Technologies) ระบุว่า ราคายางในตลาดส่งมอบทันทีปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดล่วงหน้า โดยยางแท่งเกรดส่งออกมาตรฐานของประเทศไทยปรับตัวขึ้นมากกว่า 31% แล้วนับตั้งแต่ต้นปี

ฟาราห์ มิลเลอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเฮลิกซ์แท็ปในสิงคโปร์ ซึ่งให้บริการข้อมูลด้านยางพารา กล่าวว่า ผลผลิตยางในประเทศไทยซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของการผลิตยางพาราทั่วโลกนั้น คาดว่าจะลดลงประมาณ 10%-15%

จอม เจคอบ หัวหน้านักวิเคราะห์ของวอตเน็กซ์ รับเบอร์ (WhatNext Rubber) ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ด้านยางพาราของอินเดีย ระบุว่า ฤดูการเก็บเกี่ยวสูงสุดของปีนี้ได้ถูกกระทบจากน้ำท่วมและฝนที่ตกลงมามากเกินไป โดยต้นยางอาจได้รับความเสียหายจากโรคใบร่วง

เจคอบ ประมาณการว่า การผลิตยางทั่วโลกในปีนี้อาจต่ำกว่าความต้องการบริโภคอยู่ประมาณ 1.2 ล้านตัน

Back to top button