‘จีน’ รีดภาษีคนรวย.!?
“รัฐบาลจีน” เริ่มดำเนินการเรียกเก็บภาษีกำไรจากการเงินลงทุนในต่างแดน ที่ไม่มีการบังคับใช้มาเป็นเวลานานกับมหาเศรษฐีในประเทศจีน
“รัฐบาลจีน” เริ่มดำเนินการเรียกเก็บภาษีกำไรจากการเงินลงทุนในต่างแดน ที่ไม่มีการบังคับใช้มาเป็นเวลานานกับมหาเศรษฐีในประเทศจีน
ตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา บรรดา “เศรษฐี” ตามเมืองใหญ่ในจีน ได้รับการติดต่อจากทางการจีนให้ทำการคำนวณภาษีด้วยตนเองหรือได้รับหมายเรียกจากกรมสรรพากรจีน เพื่อให้ไปประเมินเงินภาษีที่ต้องชำระ โดยเม็ดเงินดังกล่าวรวมถึงภาษีค้างชำระในอดีตด้วย..
จากมาตรการนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลจีน ต้องการเร่งหาช่องทางรายได้เพิ่มเติม หลังจากยอดขายที่ดินถดถอยและรายได้เติบโตช้าลง และมาตรการนี้สะท้อนถึงนโยบาย “รุ่งเรืองด้วยกัน” ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่จะเป็นการสร้างความเท่าเทียมด้วยกระจายรายได้ของประชาชนชาวจีน
สำหรับบุคคลที่ได้รับการติดต่อจากรัฐบาล อาจต้องเสียภาษีจากกำไรที่ได้จากการลงทุนมากถึง 20% นอกจากนี้อาจต้องได้รับโทษจากการค้างชำระเงินภาษี โดยตัวเลขที่แน่นอนยังสามารถเจรจาต่อรองได้
นอกจากนี้แล้ว “การเรียกเก็บภาษีย้อนหลังของจีน” เป็นไปตามมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ (CRS) ที่กำหนดไว้ปี พ.ศ. 2561 เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี
ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นยังได้กำหนดให้ประชาชนต้องเสียภาษีรายได้ที่มาจากต่างแดน รวมถึงรายได้จากการลงทุนด้วย หลังมาตรการนี้ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักมานาน..!!
อย่างไรก็ดียังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า มาตรการนี้จะบังคับใช้ได้แพร่หลายหรือนานแค่ไหน เนื่องจากชาวจีนบางคนที่ตกเป็นเป้าหมายของสรรพากร มีทรัพย์สินต่างแดนอย่างน้อย 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือกว่า 330 ล้านบาท) หรือไม่ก็เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนหลักทรัพย์ฮ่องกงและสหรัฐฯ
“แพทริค ยิป” รองประธาน Deloitte China ระบุว่า รัฐบาลจีนมีข้อมูล CRS จำนวนมหาศาลที่หน่วยงานจัดเก็บภาษีสามารถใช้เรียกตามเก็บภาษีได้ นี่อาจนำไปสู่การขยายขอบเขตการตรวจสอบภาษีรายบุคคลได้
ขณะที่ Boston Consulting Group ประเมินว่า จากทรัพย์สินส่วนตัวของเศรษฐีจีนกว่า 24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือกว่า 792 ล้านล้านบาท) ประมาณกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นทรัพย์สินที่อยู่นอกประเทศ
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า ตัวเลขผู้ย้ายถิ่นออกนอกประเทศที่เป็นบุคคลมีฐานะเพิ่มสูงถึง 1.2 ล้านคนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564
ทั้งนี้รายได้ของรัฐบาลจีน ระหว่างช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ลดลง 2.6% จากปี พ.ศ. 2566 เหลือ อยู่ที่ 14.8 ล้านล้านหยวน รายได้จากการขายที่ดินรัฐลดลง 25% จนเหลืออยู่ที่ 2 ล้านล้านหยวน
ขณะที่รายได้จากภาษีลดลง 5.3% โดยผู้กำหนดนโยบายได้ออกมาตรการกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มเติม ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และหนึ่งในมาตรการคือ “การจัดการกับหนี้นอกบัญชี” เพื่อลดภาระทางการเงินนั่นเอง..!!