พาราสาวะถี

มีจังหวะหายใจหายคอทางการเมืองบ้างสำหรับ แพทองธาร ชินวัตร หลังจากถูกรุกไล่อย่างหนักนับตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะเวลานี้เรื่องของดิไอคอน กรุ๊ป กำลังมาแรงแซงทุกประเด็น


มีจังหวะหายใจหายคอทางการเมืองบ้างสำหรับ แพทองธาร ชินวัตร หลังจากถูกรุกไล่อย่างหนักนับตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะเวลานี้เรื่องของดิไอคอน กรุ๊ป กำลังมาแรงแซงทุกประเด็น จุดน่าสนใจคงไม่ใช่ปมของการทำธุรกิจที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน หรือนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ตามที่เป็นข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ แต่ไฮไลต์สำคัญคือ ความกังขาต่อฐานะอันอู้ฟู่ของเจ้าของบริษัท และบรรดาบอสทั้งหลายต่างหาก โดยเฉพาะมีดาราและอดีตดาราดังร่วมก๊วนด้วยจึงไปกันใหญ่

ความเสียหายของลูกข่ายไม่ว่าจะทะลุไปที่กี่พันราย มูลค่ากี่ร้อยกี่พันล้าน เป็นเรื่องที่จะต้องอาศัยการรวบรวม พยานหลักฐาน เพื่อที่จะเอาผิด การชดใช้ทำได้มากน้อยขนาดไหน ก็ให้ย้อนกลับไปดูบริษัทลักษณะเดียวกันว่าสามารถเยียวยา ช่วยเหลือกันได้หมดหรือไม่ ส่วนความผิดที่แต่ละคนจะได้รับ ยิ่งคนที่มีชื่อเสียงระดับดารา คนดังนั้น ย่อมตกเป็นที่สนใจเป็นธรรมดา บทสรุปของเรื่องนี้และน่าจะมีอีกหลายบริษัทที่หนาว ๆ ร้อน ๆ คือ ความโลภต้องการผลตอบแทนก้อนโต โดยลืมมองข้อเท็จจริงไปว่าการทำมาค้าขายที่แท้จริงนั้น ไม่มีผู้ประกอบการ หรือพ่อค้าแม่ขายที่ไหนจะได้กำไรมหาศาล และรวยได้ในพริบตา

ความจริงหากติดตามกระบวนการที่ใช้ โดยเฉพาะการทุ่มทุนโปรโมต โฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็น่าจะเห็นความผิดสังเกตกันได้ น่าแปลกใจเสียด้วยซ้ำไปว่า ทำไมถึงทำและอยู่กันมาได้หลายปีดีดัก เบื้องลึกเบื้องหลังเป็นสิ่งที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะต้องไขข้อกระจ่าง สางให้คนเห็นไส้ในของขบวนการทั้งหมด ส่วนคลิปเสียงของนักการเมืองที่ไปเรียกรับผลประโยชน์ เป็นธรรมดาอีกเช่นกันของพวกมือถือสากปากถือศีล ส่วนใหญ่พวกที่ขยันทำตัวให้เป็นข่าว และทำตัวใกล้ชิดผู้ที่คิดว่ามีอำนาจ บารมี มักจะมีเรื่องพวกนี้แอบแฝงอยู่เป็นประจำ

ทั้งหมดก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรมทำงาน ใครทำอะไรไว้ก็ย่อมได้อย่างนั้น สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นความโชคดีของพรรคเพื่อไทยคือ หนึ่งในผู้ต้องหา “บอสแซม” ยุรนันท์ ภมรมนตรี ได้หันหลังให้การเมืองไปก่อนหน้า หากยังเป็นสมาชิกและมีบทบาททางการเมืองเหมือนที่ผ่านมา รับรองงานเข้าแน่ พอไม่มีคนของตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง มิหนำซ้ำ ยังมีคนของฝ่ายตรงข้ามถูกเพ่งเล็งอีกต่างหาก ถือเป็นเหยื่ออันโอชะที่ทำให้มือเดินเกมการเมืองของพรรคแกนนำขย้ำได้สนุกปาก

การมีคดีใหญ่มาช่วยเบนความสนใจเรื่องร้อน ถือเป็นโอกาสทำให้แพทองธารในฐานะผู้นำรัฐบาลและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้อาศัยเป็นจังหวะทบทวนท่าที แนวทางการเดินในมิติทางการเมือง เพราะแต่ละเรื่องที่จะขยับกันในสภา ล้วนแต่อ่อนไหว และเป็นประเด็นที่พรรคร่วมต่างไม่เห็นด้วยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งยังหาข้อสรุปไม่ได้เกี่ยวกับการรวมเอาความผิดที่เกี่ยวกับคดีอาญามาตรา 112 ไว้ด้วยหรือไม่ เมื่อไร้ข้อยุติก็ต้องใช้วิธีตีกรรเชียงกันไปเรื่อย ๆ

ขณะที่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด่านหินที่จะนำไปสู่การรื้อกฎหมายสูงสุดของขบวนการสืบทอดอำนาจให้สำเร็จได้โดยง่ายคือ ร่างกฎหมายประชามติ หลังจาก สว.สายสีน้ำเงินแสดงฤทธิ์เดชให้เห็นด้วยการตีกลับร่างที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ เพื่อให้กลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้น ผนวกเข้ากับท่าทีของพรรคภูมิใจไทยที่เห็นด้วยกับสภาสูง ถือเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจสำหรับพรรคแกนนำ ขืนดันทุรังกันต่อก็หนีไม่พ้นที่จะเกิดปัญหาในอนาคต

ไม่ต่างกันกับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา จากก่อนหน้าที่ตกเป็นประเด็นว่าด้วยการเล็งจะแก้ไขปมมาตรฐานจริยธรรม สุดท้ายอุ๊งอิ๊งส่งสัญญาณถอย สอดประสานกับแกนนำพรรคเพื่อไทยไม่ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้อีก โดยเบี่ยงไปที่การเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ล่าสุด ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร รับทราบความเห็นของวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน ให้ประสานกับวุฒิสภาเพื่อเลื่อนการประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราออกไปเป็นสมัยประชุมหน้า

เท่ากับว่าสมัยประชุมนี้จะไม่มีเรื่องร้อนให้ต้องหนักใจกันแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นการที่แพทองธารนัดกินข้าวกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จะเหลือประเด็นอะไรที่ต้องมาถกกันให้ได้ข้อยุติ น่าจะเป็นเรื่องของการทำงานในฝ่ายบริหาร ที่จะเน้นให้ สส.และสมาชิกของแต่ละพรรครับฟังความเดือดร้อน และปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำกลับมาสะท้อนในที่ประชุม ครม.ให้เร่งแก้ไข จะเห็นได้ว่ากรณีน้ำท่วมที่ผ่านมา ทุกพรรคโดยเฉพาะเพื่อไทยกับภูมิใจไทยร่วมมือกันทำงานได้เป็นอย่างดี

การลดโทนความร้อนแรงทางการเมือง แล้วหันมาให้ความสำคัญกับการดูแล แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จะช่วยเสริมความโดดเด่นต่อภาวะผู้นำของลูกสาวคนเล็กของ ทักษิณ ชินวัตร ได้เป็นอย่างดี การแสดงบทบาทต่อการสั่งการ ลงพื้นที่ และเร่งรัดการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา ถือเป็นภาพจำ ตอกย้ำด้วยบทบาทบนเวทีระหว่างประเทศอย่างเอซีดีที่กาตาร์ และการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ลาว อยู่ในระดับสอบผ่านและมีทิศทางที่เป็นบวก

การยอมรับจากประชาชนเกิดจากการโพนทะนา และยกหางกันเองของกระบอกเสียงภายในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นั่นแค่ส่วนหนึ่ง ภาพสะท้อนของความนิยมที่ดีวันดีคืนของนายกฯ หญิงคือ การจับผิดในเรื่องเล็กน้อยไม่ว่าจะการอ่านโพย การพูดผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ทำให้เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามเริ่มจะหวั่นไหวต่อกระแสการยอมรับของประชาชน และไม่มีหนทางอื่นที่จะเล่นงานได้ คาถาที่จะนำไปขอความร่วมมือกับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายบนโต๊ะอาหารมื้อพิเศษก็คือ จับมือกันทำงานในฝ่ายบริหาร ส่วนการตอบโต้ทางการเมืองให้เป็นเรื่องของสภา ที่สำคัญพรรคร่วมอย่าได้ขัดขากันเองเป็นดีที่สุด

อรชุน

Back to top button