OKJ พุ่งต่อ 4% เชื่อมั่นกำไรโตเด่น กางแผน 5 ปีขยายสาขาใหม่ 3 แบรนด์

OKJ วิ่งต่อ 4% นักลงทุนเชื่อมั่นธุรกิจมีแนวโน้มเติบโต เดินหน้านำเงินระดมทุนขยายธุรกิจ หนุนรายได้รวมโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 46% กางแผน 5 ปี ขยายสาขาใหม่ 5 แบรนด์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ต.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ ณ เวลา 15:12 น. อยู่ที่ระดับ 12.10 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 4.31% สูงสุดที่ระดับ 12.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 236.79 ล้านบาท

นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานในปี 67 จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,716.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 140.65 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 1,110.73 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 102.36 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) เติบโต 8% (ซึ่งในอัตราการเติบโต 8% เป็นการเติบโตของลูกค้าใหม่ที่เข้ามาใช้บริการถึง 7%) ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/67 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ OKJ

“การเติบโตของเราในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการเติบโตที่หวือหวา แต่จะเป็นการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน โดยเรามีนโยบายจะรักษาอัตราการเติบโตของรายได้รวมให้อยู่ในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2564-2566) บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมเฉลี่ย (CAGR) ที่ 46.2% ต่อปี) โดยจะมาจากการขยายสาขาใหม่ทั้งจากแบรนด์โอ้กะจู๋ (เป็นแบรนด์หลัก) และแบรนด์ใหม่ Ohkajhu Wrap & Roll และ Oh Juice รวมถึงการศึกษาและคิดค้นเมนูใหม่ ๆ เพื่อสร้างความหลากหลายให้ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทได้วางเป้าหมายภายในปี 2571 จะมีสัดส่วนรายได้จากแบรนด์ใหม่ ๆ เพิ่มเป็น 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5% เพื่อลดความเสี่ยงการมีรายได้จากแบรนด์เดียว” นายชลากร กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะ 5 ปี (ปี 67-71) ในการขยายสาขาใหม่ทั้ง 3 แบรนด์ ดังนี้

1.ขยายสาขาแบรนด์ “โอ้กะจู๋” เพิ่มเป็น 67 สาขา (จากปัจจุบันที่ 37 สาขา),

2.ขยายสาขาแบรนด์ “Ohkajhu Wrap & Roll” ให้ครบ 20 สาขา (จากปัจจุบันมี 1 สาขา) และ

3.ขยายสาขาแบรนด์ “Oh Juice” ให้ครบ 70 สาขา (จากปัจจุบันมี 8 สาขา)

โดยจะส่งผลให้มีสาขารวม 157 สาขาภายในปี 2571 เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ๆ รวมทั้งหัวเมืองหลักในภูมิภาคต่าง ๆ

นายชลากร กล่าวอีกว่า งบลงทุนในการขยายสาขาร้าน “โอ้กะจู๋” จะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาทต่อสาขา (ขนาด 250 ตารางเมตร) ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่นั้น ๆ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทยังคงมาจากแบรนด์ “โอ้กะจู๋” เป็นหลัก ซึ่งมีสัดส่วนที่ประมาณ 95% ของรายได้รวม ส่วนอีก 5% มาจากแบรนด์ใหม่ ๆ

Back to top button