“พิชัย” ถก “รมว.เศรษฐกิจรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค” เร่งเจรจา FTA ไทย-อียู

รมว.พาณิชย์ หารือ รมว.เศรษฐกิจรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค เยอรมนี ชวนลงทุน Data Center-พลังงาน-อาหารในไทย พร้อมเร่งเครื่องเจรจา FTA ไทย-อียู


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีกับ ดร.นิโคล ฮอฟไมสเตอร์-เคราท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ แรงงาน และการท่องเที่ยวแห่งรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ณ กระทรวงพาณิชย์

โดย รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค (State of Baden-Württemberg) เป็นรัฐสำคัญที่มีจำนวนประชากร และขนาด GDP ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมนี และมีมูลค่าการค้ากับไทย คิดเป็น 1 ใน 5 ของมูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย-เยอรมนี โดยมีสินค้าศักยภาพ ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน อุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกล และอุปกรณ์ไฟฟ้า

สองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนแนวทางการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และวิศวกรรมขั้นสูง ซึ่งเยอรมนีมีความเชี่ยวชาญและมีความสนใจที่จะขยายฐานการผลิต รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมหรือบริการเป้าหมายที่เห็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น ยานยนต์ วิศวกรรมเครื่องจักรกล แผงวงจรไฟฟ้า ระบบจัดเก็บข้อมูล (Data Center) พลังงานทางเลือก และ Soft power โดยเฉพาะในสาขาอาหารและการท่องเที่ยว

รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เช่น Daimler (Mercedes-Benz) (ยานยนต์และชิ้นส่วน), Bosch (เทคโนโลยีการขับเคลื่อน ระบบขนส่งอัจฉริยะ อุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องใช้ในครัวเรือน), Festo (ระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม เช่น อุปกรณ์ยานยนต์และเซมิคอนดักเตอร์) SAP SE (บริการซอฟต์แวร์) และ Carl Zeiss (เลนส์ อุปกรณ์ทัศนศาสตร์ และ MedTech) และมีมูลค่าการค้ากับไทย คิดเป็นร้อยละ 20 ของมูลค่าการค้ารวมไทย-เยอรมนี

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ได้ขอให้เยอรมนีช่วยสนับสนุนการเจรจา FTA ไทย – อียู (EU) ให้สามารถสรุปผลได้โดยเร็ว โดยสองฝ่ายเห็นพ้องว่า FTA ไทย – อียู จะเป็นประโยชน์ต่อการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-เยอรมนี รวมถึงรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์คด้วย ซึ่ง FTA ฉบับนี้ จะช่วยขยายโอกาสและยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะส่งคณะนักธุรกิจและผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างกันด้วย

ทั้งนี้ นายพิชัย ได้เชิญชวนให้นักธุรกิจรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค เข้ามาลงทุนในประเทศไทย พร้อมย้ำว่า ไทยยินดีให้การอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ทั้งนี้ในปี 2566 เยอรมนี ถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทยในสหภาพยุโรป การค้าระหว่างไทย-เยอรมนี มีมูลค่า 10,737.90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทยไปเยอรมนี 4,555.82ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่แผงวงจรไฟฟ้า, อัญมณีและเครื่องประดับ, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ขณะที่ไทยนำเข้าจากเยอรมนี 6,182.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าที่สำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์

Back to top button