RATCH เด้ง 2% ปักหมุด COD “โซลาร์ฟิลิปปินส์” 145 MW ไตรมาส 4/68
RATCH ดีด 2% ลุยโซลาร์ Bacolod ฟิลิปปินส์ 145 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญ กำหนด COD ไตรมาส 4/68 บันทึกรายได้ตั้งแต่ปี 68 เป็นต้นไป พร้อมวางเป้าเฟส 2 ติดตั้งร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่เพื่อให้การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ต.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ณ เวลา 10:29 น. อยู่ที่ระดับ 34 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.26% สูงสุดที่ระดับ 34.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 33.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 132.03 ล้านบาท
นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Bacolod ฟิลิปปินส์ กำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุด 145 เมกะวัตต์ (MW) ตั้งอยู่ในจังหวัด Negros Occidental ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2567 หลังการจัดหาเงินกู้จากสถาบันการเงินของฟิลิปปินส์ 2 แห่ง
ได้แก่ Security Bank Corporation และ Philippine National Bank สำเร็จในเดือนตุลาคมนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/68
โดยโครงการแห่งนี้มีต้นทุนโครงการกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะติดตั้งโซลาร์เซลล์โฟโตโวลเทอิก (Photovoltaic: PV) โดยต่อไปในระยะที่ 2 โครงการมีแผนจะติดตั้งร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ เพื่อให้การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น
สำหรับกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะจำหน่ายให้กับบริษัทในเครือของกลุ่ม Aboitiz Power Corporation ภายใต้สัญญาจัดหาพลังงานไฟฟ้า ระยะเวลา 10 ปี ส่วนที่เหลือจะจำหน่ายในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า (Wholesale Electricity Spot Market) โดยมีบริษัท เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี อินเวสเมนต์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 49% เป็นผู้บริหารและดำเนินงานโครงการ
ทั้งนี้โครงการพลังแสงอาทิตย์ Bacolod แสดงถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานของบริษัทที่มุ่งเน้นพัฒนาโครงการที่มีอยู่ในมือทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เดินหน้าสำเร็จได้ตามเป้าหมาย และสนับสนุนความมั่นคงพลังงานไฟฟ้าของประเทศที่ลงทุนด้วย สำหรับโครงการ Bacolod ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการขยายฐานธุรกิจระยะยาวในฟิลิปปินส์เพื่อร่วมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนของประเทศ รวมทั้งบริษัท ซึ่งกำหนดเป้าหมายไว้อย่างน้อย 30% ภายในปี 2573
“ปัจจุบันบริษัทมีโครงการในฟิลิปปินส์ 4 โครงการ รวมกำลังการผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น ประมาณ 550 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถพัฒนาเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ โดยโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า กำลังการผลิตตามสัดส่วน ถือหุ้น 36.30 เมกะวัตต์ ได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 และโครงการ Bacolod กำลังการผลิตตามการถือหุ้น 71.05 เมกะวัตต์ กำลังเข้าสู่ช่วงของการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าให้กับลูกค้าและสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 เป็นต้นไป อีกทั้งจะยังประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมของฟิลิปปินส์อีกด้วย” นายนิทัศน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Bacolod แล้ว บริษัท เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี อินเวสเมนต์ จำกัด ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 2 แห่ง ได้แก่ โครงการพลังงานลมใกล้ชายฝั่ง ซาน มิเกล เบย์ ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง ประมาณ 500 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง ลูเซนา ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง ประมาณ 475 เมกะวัตต์