จับตา! ครม. กระตุ้น “ท่องเที่ยว” คืนเงิน 30% ดึงกองถ่าย “หนังเทศ” เข้าไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ต.ค.67) การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีวาระที่เข้าสู่การพิจารณา และรับทราบของ ครม.ที่น่าสนใจ เช่น กระทรวงการคลัง เสนอรายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม – ธันวาคม 2566) ของธนาคารแห่งประเทศไทย และรายงานการพิจารณาความเหมาะสมของอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงินสำหรับปี 2567

ทั้งนี้ ต้องติดตามข้อเสนอเรื่องความเหมาะสมของอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงิน ที่ ครม.เคยมีมติให้มีการลดอัตราเงินนำส่งกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจในส่วนสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) จากเดิมที่เรียกเก็บที่อัตรา 0.25% ต่อปีลดลงเหลืออัตรา 0.125% ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชนเป็นระยะเวลา 1 ปี

หากรายงานฉบับนี้กระทรวงการคลังให้ความเห็นว่าควรต่อระยะเวลามาตรการนี้ออกไปอีก 1 ปี ก็จะมีแนวโน้ม อัตราเงินนำส่งสถาบันการเงินเฉพาะกิจในส่วนสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ในปี 2568 ยังอยู่ที่อัตรา 0.125% ต่อไปตามเดิม

สำหรับวาระอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอ ครม. ทบทวนมาตรการส่งเสริมกองถ่ายภาพยานต่างชาติในประเทศไทย คืนเงินสูงสุด 30% จากเดิมสามารถขอคืนเงินสูงสุด 20%

โดย นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า สำหรับมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์กองถ่ายหนังต่างประเทศในไทย มีการปรับรายละเอียดการคืนเงินแบบขั้นบันได คือ ลงทุนไม่เกิน 50 ล้านบาท คืน 15% ลงทุนไม่เกิน 100 ล้านบาท คืน 20% ลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท คืน 25% และพิจารณาจากเงื่อนไขอื่นๆ

ด้าน กระทรวงกลาโหมเสนอ จะขออนุมัติผู้แทนรัฐบาลไทยมีอำนาจลงนามในข้อตกลงระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วย การซื้อ การซื้อขายระบบจรวดหลายลำกล้องขนาด 122 มิลลิเมตร แบบ SR4 จำนวน 2 รายการ และซื้อชุดปรับปรุงสำหรับโครงการซ่อมปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ รถสายพานลำเลียงพลแบบ 85 จำนวน 29 คัน