“สุริยะ” ขอศึกษาโมเดล “เก็บภาษีรถติด” เวลา 6 เดือน-1 ปี คันละ 40-50 บาทต่อวัน
“สุริยะ” รองนายกฯ และรมว.คมนาคม เผยเก็บภาษีรถติดยังไม่เริ่มตอนนี้ ขอเวลาศึกษา 6 เดือนถึง 1 ปี แย้มวางตุ๊กตาเก็บเฉพาะ “รถเก๋ง” คันละ 40-50 บาทต่อวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ต.ค. 67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว ชี้แจงกรณีพรรคเพื่อไทย โพสต์สำรวจความเห็น เรื่อง เก็บค่าธรรมเนียมรถติด เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า กระทรวงฯพยายามขยายให้มีรถไฟฟ้า 20 บาทในเส้นอื่น ๆ ซึ่งต้องรอให้มี พ.ร.บ.ตั๋วร่วม โดยยังยืนยันเช่นเดิมว่าประชาชนจะได้ใช้ รถไฟฟ้า 20 ตลาดสาย ช่วงเดือนกันยายน ปี 2568
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า แต่ต่อมามีการพูดถึงการจะตั้ง กองทุนเพื่อจะซื้อรถไฟฟ้าทุกสาย ซึ่งกองทุนต้องมีแหล่งรายได้และเมื่อดูการศึกษาในหลายประเทศเพื่อแก้ปัญหาเรื่องรถติดได้ จะต้องมีการเก็บเงิน Congestion Charge หรือค่าธรรมเนียมรถติด ขณะนี้ทางกระทรวงคมนาคม ได้จัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อมาศึกษาในรายละเอียดว่า จะเก็บที่ไหน อย่างไร และผลประโยชน์จะเกิดกับประชาชนได้อย่างไร
นายสุริยะ เชื่อว่า ถ้าประชาชนหันมาใช้รถไฟฟ้าในราคาถูกก็จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้นด้วย เพราะปัจจุบันถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัว มีค่าน้ำมันต่าง ๆ และกว่าจะเดินทางกลับถึงบ้านเวลาที่จะได้อยู่กับครอบครัวก็ลดลง ย้ำเรื่องการจะเก็บภาษีรถติด จะให้มีการศึกษาก่อน ผลดี หรือไม่ดีอย่างไร หลังจากนั้นจะอธิบายให้ประชาชนฟัง โดยน่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี และต้องเตรียมระบบขนส่งสาธารณะให้เรียบร้อยก่อนด้วย
“ตุ๊กตาก็มีตั้งแต่ 40 บาท ถึง 50 บาทต่อวัน แต่การจะเก็บ Congestion Charge ได้ หมายความว่าจะเก็บในเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าอยู่แล้ว เมื่อมีเส้นรถไฟฟ้าแล้วยังจะใช้รถส่วนตัว ซึ่งเกิดมลภาวะต่าง ๆ ทางเราก็อาจจะต้องเก็บ และนอกจากจะมีเส้นรถไฟฟ้าผ่านแล้ว ยังต้องมีทางเลือกให้กับผู้ใช้รถยนต์อีก เช่น เราเก็บภาษีรถติดในเส้นที่ผ่านพารากอน ประชาชนที่ต้องผ่านเพื่อไปพระโขนง อาจจะเปลี่ยนเส้นทางไปเพชรบุรีหรือพระราม 4 เราก็มีทางเลือกให้เขาอีก” นายสุริยะ กล่าว
นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเก็บภาษีรถติดจะทำให้กระทบกับภาคธุรกิจในเขตเมืองหรือไม่ว่า ค่าธรรมเนียมรถกระบะ (ปิคอัพ) ไม่เก็บ เราจะเก็บเฉพาะรถเก๋ง
ส่วนเรื่องกองทุนที่จะตั้งขึ้น นายสุริยะ กล่าวว่า การลงทุนมีความเสี่ยง คนที่จะมาซื้อกองทุนต้องพิจารณาควรจะซื้อหรือไม่ซื้อ ซึ่งผลการศึกษาจะแจ้งให้นักลงทุนได้ทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจ
ขณะที่ปัญหา PM 2.5 ถ้าคนเปลี่ยนพฤติกรรมจากใช้รถเก๋งไปใช้รถไฟฟ้ามลภาวะลดลงแน่นอน นายสุริยะ กล่าวทิ้งท้าย