“สหรัฐฯ-IMF” ห่วงเศรษฐกิจ “จีน” สะดุด ขาดนโยบายกระตุ้นชัดเจน หั่นเป้า GDP เหลือ 4.8%

สหรัฐฯ-IMF กังวลทิศทางเศรษฐกิจจีน สะดุด ชี้มาตรการกระตุ้นปัจจุบันไม่พอ ด้าน IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP ปีนี้จาก 5.0% เหลือ 4.8%


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (23 ต.ค.67) สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาและ ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์ของ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้กล่าวแยกกันว่า พวกเขายังไม่เห็นการประกาศใด ๆ จากธนาคารกลางและกระทรวงการคลังของจีนที่จะสามารถกระตุ้นอุปสงค์ได้มากพอที่จะดูดซับการผลิตส่วนเกินและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

“มุมมองของเราคือการเพิ่มการใช้จ่ายของผู้บริโภคในจีนให้เป็นสัดส่วนที่มากขึ้นของ GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) นั้นสำคัญมาก รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ที่จะแก้ไขปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย” เยลเลนกล่าว ในการแถลงข่าวที่การประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลกในกรุงวอชิงตัน

“เท่าที่ผ่านมา ดิฉันคิดว่ายังไม่ได้ยินนโยบายใด ๆ จากฝั่งจีนที่ตอบสนองต่อเรื่องนั้นเลย” เยลเลน กล่าว

ด้าน กูรินชาส กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นทางการคลังของจีนในขณะนี้ ยังขาดรายละเอียดและด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้รวมอยู่ในแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ IMF คาดการณ์ ซึ่งได้ถูกปรับลดลง 0.2% เหลือ 4.8% หลังเคยคาดการณ์ว่าจะเติบโต 5.0% แม้จะพิจารณาการเพิ่มขึ้นของการส่งออกที่ชดเชยผลกระทบของปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์และความมั่นใจผู้บริโภคที่อ่อนลงแล้ว

นอกจากนี้ นโยบายกระตุ้นทางการเงินเพื่อเพิ่มการปล่อยสินเชื่อที่ ธนาคารกลางจีน  (PBOC) ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วนั้น จะไม่สามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ

Back to top button