พาราสาวะถี

เป็นธรรมดาของวงจรอุบาทว์ หลังเกิดอาการฝีแตกมักจะตามมาด้วยเรื่องราวฉาวโฉ่เป็นดอกเห็ด กรณีบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป


เป็นธรรมดาของวงจรอุบาทว์ หลังเกิดอาการฝีแตกมักจะตามมาด้วยเรื่องราวฉาวโฉ่เป็นดอกเห็ด กรณีบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป หลัง “บอสพอล” วรัตน์พล วรัทย์วรกุล พร้อมพวกโดยเฉพาะเหล่าดารา เซเล็บ ถูกรวบเข้าซังเตพร้อมกันรวม 18 คน การขยายผลสืบค้นเข้าทำนองยิ่งสาวยิ่งเจอ ทั้งทรัพย์สินมหาศาลที่ซุกซ่อนตามที่ต่าง ๆ และบรรดาคนใกล้ชิดที่กลัวติดคุกติดตะราง ต่างพากันแปรสภาพเป็นพยานปากสำคัญ แทนที่การตกเป็นผู้ต้องหา

ขณะที่ผู้เกาะติดเรื่องนี้ให้ความสนใจกันต่อจากการกวาดเหล่าบอสเข้าคุกแล้ว จะมีการออกหมายจับใครเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยเฉพาะเหล่าแม่ข่ายตัวเป้งทั้งหลาย อันถือเป็นมือไม้ทำงานหาเหยื่อเพื่อมาร่วมลงทุน จับตามองกันเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นภรรยาของอดีตพิธีกรชื่อดัง กันต์ กันตถาวร มีรายชื่ออยู่ในหมายจับล็อตที่ 2 ด้วยหรือเปล่า พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. บอกว่า ขณะนี้ยังไม่พบในรายชื่อ และยังไม่พบว่าเดินทางออกนอกประเทศด้วย

ไม่รู้จะเป็นการสับขาหลอก ทำให้เป้าหมายตายใจ ไม่หลบหนีไปก่อนหรือไม่ นาทีนี้ใครที่อยู่ในข่ายถูกจับตามองคงขยับตัวลำบาก เชื่อได้เลยว่าเหล่าสายสืบทั้งหลายต่างตามติดทุกฝีก้าว รอแค่จังหวะ เวลาที่เหมาะสมเพื่อรวบตัวมาดำเนินคดีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางข้อมูล ข่าวสาร และเบาะแสที่หลั่งไหลเข้าไปสู่มือเจ้าหน้าที่ ทั้งส่วนของตำรวจที่มีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก.เป็นแม่งานใหญ่ กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่ทำงานคู่ขนานกันนั้น ต้องกลั่นกรองกันให้ละเอียด

เพราะมีทั้งข้อมูลจริง และเท็จปนเปกันอยู่ ต้องเข้าใจว่าเรื่องใหญ่ กระแสแรงแบบนี้ ไม่ได้มีแค่ฝ่ายเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น เหล่านักเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลในสังคมทั้งหลาย ต่างก็ออกมาเล่นเรื่องนี้กันชนิดเกาะติดเหมือนกัน เหมือนเป็นการช่วยฝ่ายรัฐอีกแรง แต่บางครั้งก็ต้องระวังพวกหิวแสงที่อาจจะมาหลอกด้วยการแอบอ้างในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อหวังที่จะอาศัยองค์กรภาคเอกชนเหล่านั้นในการสร้างชื่อให้กับตัวเอง

เหมือนกรณีพยานที่ เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำมาเปิดเผย ซึ่งเป็นบุคคลที่อ้างตัวเป็นคนใกล้ชิดของผู้บริหารระดับสูงของดิไอคอน กรุ๊ป แปลงทรัพย์สินที่มีเป็นสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโต เพื่อจ่ายสินบนกว่า 8,000 ล้านบาท ยืนยันจาก “บิ๊กเต่า” พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ให้ดูแลเรื่องคลิปเสียงเกี่ยวกับเทวดา และหลักฐานสำคัญหลายอย่างว่า คนที่ปรากฏเป็นข่าวเรียกมาสอบปากคำแล้วยืนยันว่า “มั่ว” อุปโลกน์ขึ้นมา ข้อเท็จจริงไม่มีที่มาที่ไป

รอดูว่าผลของการให้ข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวใหญ่โตแบบนี้ ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไปหรือไม่ เพราะสิ่งที่พูดไปสร้างความเสียหายให้หลายหน่วยงาน การที่แอบอ้างเพียงเพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจ เพราะบุคคลดังกล่าวเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการขายออนไลน์ อยากจะมีชื่อเสียง แต่การเลือกหาแสงแบบนี้ไม่น่าจะเป็นการดีเท่าไหร่ ยังดีที่บิ๊กเต่าเข้าใจผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ที่มีจิตอาสาเข้ามาทำงานด้วยความสุจริต

อย่างไรก็ตาม ก็มีการสะกิดเตือนแบบแรง ๆ ว่า แม้จะเข้าใจต่อความหวังดี และความต้องการช่วยเจ้าหน้าที่ทำงานให้ง่ายและเร็วขึ้น แต่ต้องเตือนพวกที่เข้ามาหาแสง ต้องแม่นข้อกฎหมายด้วย ไม่ใช่แต่เอามัน แล้วทำให้เสียหายต่อองค์กรอื่น คนที่ได้แสงนอกจากสุ่มเสี่ยงจะทำผิดกฎหมาย ถูกดำเนินคดีแล้ว องค์กรที่เป็นตัวกลางจะพลอยได้รับผลกระทบในแง่ความน่าเชื่อถือของตัวเองด้วย นี่คือบิ๊กเต่าคนที่ท้าชนกับนายตำรวจระดับสูงมาก่อนหน้านี้ พิสูจน์แล้วว่าของแทร่ที่แวดวงสีกากีต้องการ

ปิดจ๊อบเรื่องแปลงเงินไปแล้ว อย่างที่บอกว่า แผลที่ถูกเปิดแล้วขยายกว้าง ไม่ใช่เฉพาะเหล่าบอส แม่ข่ายและพวกร่วมขบวนในดิไอคอนที่จะถูกดำเนินคดีเท่านั้น งานนี้บอสพอลไม่ยอมตายเดี่ยว คลิปเสียงของนักการเมืองที่เรียกรับผลประโยชน์ย่อมหนีไม่พ้นที่จะถูกขยายผลด้วย อยู่ที่ว่าฝ่ายถูกตบทรัพย์จะให้ข้อมูล และต้องการลากตัวเอามาเป็นผู้ร่วมชะตากรรมด้วยหรือไม่ ที่แน่ ๆ เหล่าเทวดาโดยเฉพาะที่อยู่ในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ไม่น่าจะรอด

น่าจะเป็นการทำงานที่คู่ขนาน ประสานงานกันอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบที่ทาง จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แต่งตั้งขึ้น โดยบิ๊กเต่ายืนยันว่า เหล่าเทวดาทั้งหลายยังมีอยู่ และตอนนี้ก็กำลังเร่งรวบรวมหลักฐาน ไล่สอบพยานที่เกี่ยวข้อง ทั้งประจักษ์พยานและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รวมไปถึงต้องสอบปากคำคนที่อยู่ในเรือนจำด้วย ซึ่งหากครบเมื่อไหร่เดี๋ยวว่ากัน เตรียมตัวไว้เลย คงจะได้เห็นเทวดาตกสวรรค์กันเร็ว ๆ นี้

นอกจากนั้น ยังมีบรรดานักร้อง (เรียน) ที่หลักฐานจากบอสระบุชัดมีใครบ้างไปไถเงินค่าปิดปาก แลกกับการไม่เปิดโปงความไม่โปร่งใสในการดำเนินการของบริษัท ซึ่งรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยืนยันเช่นกันว่า จะมีการออกหมายจับพระนางนักร้องเรียนให้เร็วที่สุด พร้อมระบุชัด ๆ ด้วยว่า พระนางคู่นี้หน้าจะเหมือน ๆ กัน ไม่รู้ใครจะโชคดีก่อน บอกไม่ได้ว่าจะออกหมายจับทั้งคู่หรือไม่ แต่หากบริษัทให้ความร่วมมือก็จะออกหมายจับเร็วขึ้น เรียกว่า พวกหากินบนความเดือดร้อนของคนอื่นตายยกฝูง

ยังมีปมบอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีพระผู้ใหญ่จำนวน 1 ล้านบาท รอดูว่าจะมีการอายัดมาตรวจสอบด้วยหรือไม่ แหลกราญไปทุกหย่อมหญ้าจริง ๆ สวนทางกับกระแสร้อนของดิไอคอน คงเป็นการตีเนียนทางการเมืองของเหล่าพรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาล วงกินข้าวเย็นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่ปรากฏเป็นข่าวใหญ่ มีแค่เรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่หนุนดึงเอา ม.112 เข้ามาด้วย ส่วนเรื่องร่าง พ.ร.บ.ประชามติ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อ่านสัญญาณแล้วฟันธงได้เลย ไม่มีทางจบภายในสมัยรัฐบาลนี้แน่นอน

อรชุน

Back to top button