“เงินบาท” เปิดเช้าอ่อนค่า 33.81 บ. หลังดอลลาร์แข็ง นิวไฮรอบ 2 เดือนครึ่ง

“เงินบาท” เปิดเช้า 33.81 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่ออังคารที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ หลังมีปัจจัยหนุน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ต.ค. 67) ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 33.81 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ระดับ 33.50 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 2 เดือนครึ่ง หลังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และนักลงทุนเตรียมพร้อมก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.67 นี้

ทั้งนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกได้ลดความคาดหวังเกี่ยวกับขนาดและความเร็วของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.255% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

นอกจากนี้เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า ตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาส 89.6% สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมของเฟดในเดือนพ.ย.นี้ และมีโอกาส 10.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม

ขณะเดียวกัน ช่วงจับตาการเลือกตั้งของสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.นี้ มีผลต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน เนื่องจากความคาดหวังในตลาดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับการชนะเลือกตั้งของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งน่าจะกำหนดนโยบายที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อตามมา เช่น การเก็บภาษีนำเข้าช่วงนี้ และยังคงต้องติดตามถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ตลอดจนสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก รวมทั้งผลสำรวจคะแนนนิยมในตัวแคนดิเดททั้งนางกมลา แฮร์ริส และ ทรัมป์ สองผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ

สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการจาก S&P Global และยอดสั่งซิ้อสินค้าคงทน

ด้าน กรอบค่าเงินบาทวันนี้ คาดว่าเงินบาทจะมีการเคลื่อนไหวที่ 33.50-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ อีกทั้งในส่วนตลาดพันธบัตรไทยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้้อ 166 ล้านบาท และขายหุ้นไทยสุทธิ 1,645 ล้านบาท

ส่วนกรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ :  USD/THB 33.50-34.00 แนะนำ ทยอยซื้อที่ 33.50/ ขาย 34.00, EUR/THB 36.30- 36.80 แนะนำ ซื้อ 36.30/ ขาย 36.80, JPY/THB 0.2190- 0.2240 แนะนำ ซื้อ 0.2190/ ขาย 0.2240, GBP/THB 43.30 – 43.80, AUD/THB 22.20- 22.70

Back to top button