IVF จ่อขายไอพีโอ 130 ล้านหุ้น ลุยเทรด mai โค้งสุดท้ายปีนี้ นำเงินขยายสาขาใน-ต่างประเทศ

อินสไปร์ ไอวีเอฟ หรือ IVF เร่งเตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 130 ล้านหุ้น ลุยเข้าเทรด mai นำเงินระดมทุนขยายสาขาในและต่างประเทศ รวมถึงลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ตอกย้ำผู้นำด้านศูนย์รักษามีบุตรยากครบวงจรในเอเชีย


นางสาวเกศิณี กุลดิลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) หรือ IVF เปิดเผยว่า บริษัทเร่งเดินหน้าเตรียมเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) มุ่งยกระดับมาตรฐานการรักษาลูกค้าผู้มีบุตรยากและเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ของคู่สมรส ภายใต้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ “Simplicity in Every Step” ทำให้ทุกฝันเป็นเรื่องง่าย และเป็นไปได้จริง เพื่อเติมเต็มทุกโอกาสของการมีบุตร

โดยวัตถุประสงค์การใช้เงินเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และการขยายสาขา รวมถึงใช้เป็นลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบริษัทไม่มีหนี้ และมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและรออนุมัติแบบไฟลิ่งจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หลังยื่นเรื่องไฟลิ่งไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับบริษัทประกอบธุรกิจศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้บริการแต่ละบุคคล และการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากแบบครบวงจรด้วยมาตรฐานระดับสากล โดยการให้บริการของบริษัทสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้ 1.การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) 2.การให้บริการด้านเวชศาสตร์ป้องกันและฟื้นฟู

โดยบริษัทมีศักยภาพที่จะเป็น Growth Stock เนื่องจากบริษัทมีการวางรากฐานอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายลูกค้า การสร้าง Brand Awareness การสร้างมาตรฐานบริการทางแพทย์ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับมาตรฐานมาต่อเนื่อง ซึ่ง Inspire เป็นบริษัทแรกของกลุ่มธุรกิจ IVF ในเอเชียแปซิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน AACI เป็นมาตรฐานสากลเดียวในปัจจุบันที่สามารถรองรับได้ทั้ง International Healthcare Standard

อย่างไรก็ดี บริษัทมีอัตราความสำเร็จในการรักษาผู้มีบุตรยากของการตั้งครรภ์เฉลี่ย 70-76% ในช่วงปี 2564-2566 อีกทั้งมุ่งคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีแผนที่จะขยายธุรกิจ IVF ทั้งในและต่างประเทศ 1-2 สาขา ภายใน 3-5 ปีต่อเนื่องอย่างธุรกิจ IVF บริษัทจะเน้นการสร้างคุณค่า Brand Awareness พัฒนาทักษะและเทคโนโลยี คุณภาพการรักษาระดับสากล และเป็นผู้นำธุรกิจในเอเชีย โดยมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจ IVF ทั้งในหรือต่างประเทศปีละ 1-2 สาขา

อีกทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหรือมีศักยภาพ บริษัทจะขยายสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหรือมีศักยภาพเพื่อเพิ่มช่องทางของรายได้แก่บริษัท โดยบริษัทจะเลือกเป้าหมายที่มีผลประกอบการกำไร ทั้งนี้ บริษัทมีแนวทางในการขยายธุรกิจที่หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ การลงทุนเข้าถือหุ้นในกิจการเป้าหมายทั้งหมดหรือการร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ เป็นต้น

โดย Inspire IVF มีช่องทางการสื่อสารไปยังลูกค้าเป้าหมายอย่างครบวงจร ทั้งช่องทางออฟไลน์ ผ่านการจัดการประชุมเชิงวิชาการร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เข้าร่วมงานสัมมนาในต่างประเทศ และช่องทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ และสื่อโชเชียลมีเดีย เช่น YouTube, TikTok, Facebook, Instagram รวมไปถึงการติดต่อลูกค้าผ่านการจัดทำสัญญาแต่งตั้งตั้งผู้แนะนำลูกค้า เพื่อแนะนำบริการของบริษัทฯ ต่อลูกค้าเป้าหมายในประเทศต่างๆ กว่า 14 ราย ครอบคลุมกว่า 26 ประเทศ

ขณะที่ปัจจุบันสถานที่ตั้งบริษัทอยู่อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ ชั้น 5 ชอยสุชมวิท 2 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งออกแบบสถานที่ภายใต้แนวคิด “Luxury and Relax” เพื่อให้ผู้ใช้บริการรู้สึกเสมือนอยู่ในล้อบบี้ของโรงแรมชั้นนำ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและได้รับการดูแลอย่างหรูหราและมีระดับคุ้มค่ากับการใช้บริการ อีกทั้งยังเป็นทำเลซึ่งเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำคัญของบริษัท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ในช่วงปี 65-66

นอกจากนี้ บริษัทมีผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมาในปี 64-66 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายในปี 64 อยู่ที่ 11.24 ล้านบาท และในปี 65 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 63.31 ล้านบาท ถัดมาในปี 66 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 121.55 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการต่อปี (CAGR) สำหรับปี 64-66 อยู่ที่ 228.78%

อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงปี 64 จะอยู่ในช่วงวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดประเทศ บริษัทฯ ได้เรียนรู้ปรับตัวโดยได้เพิ่มการบริการด้าน Wellness ในปีที่ผ่านมาและยังวางแผนกลยุทธ์เพื่อเฟ้นหาโอกาสใหม่ๆ สู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

Back to top button