BOI หนุน “เม็กเท็ค” ขยายลงทุนอุตฯ PCB ดันไทยสู่ฮับผลิตสิ้นส่วนอิเล็กฯ ระดับภูมิภาค
BOI เปิดทาง “เม็กเท็ค” ในเครือ NOK Corporation ผู้ผลิตชิ้นส่วนแผงวงจรอันดับ 6 ของโลก จากญี่ปุ่น ขยายลงทุนไทย 920 ล้านบาท รองรับอุตฯ ยานยนต์ไฟฟ้า เสริมศักยภาพไทยสู่ศูนย์กลางผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ระดับภูมิภาค
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (28 ต.ค.67) นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Printed Circuit Board : PCB) เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เนื่องจาก PCB ถือเป็นหัวใจสำคัญในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ยานยนต์, เครื่องมือแพทย์, โทรคมนาคม, เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เป็นต้น
ทั้งนี้ ด้วยกระแสการย้ายฐานการผลิตและปรับโครงสร้าง Supply Chain ครั้งใหญ่ของโลกได้ส่งผลให้ผู้ผลิต PCB รายใหญ่จำนวนมากตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยทำให้ปัจจุบันไทยได้ก้าวสู่การเป็นฐานการผลิต PCB อันดับ 1 ของอาเซียน และติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก
ขณะที่ นับตั้งแต่ปี 2566 การลงทุนในอุตสาหกรรม PCB ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงเดือนมกราคม 2566 จนถึงเดือนกันยายน 2567 มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม PCB จำนวน 95 โครงการ เงินลงทุนสูงถึง 162,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงปี 2564 – 2565 ที่มีมูลค่าคำขอเฉลี่ย 15,000 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น
ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของผู้ผลิต PCB ชั้นนำจากจีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเกิดการจ้างงานในระยะแรกกว่า 20,000 ตำแหน่ง ใช้วัตถุดิบในประเทศมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี และมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้น 7 แสนล้านบาทต่อปี
พร้อมกันนี้ BOI ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมกิจการของ บริษัท เม็กเท็ค แมนูแฟ็คเจอริ่ง คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในกลุ่มบริษัท Mektec Corporation ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ NOK Corporation สัญชาติญี่ปุ่น ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่ม PCB ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่น และอันดับ 6 ของโลก โดยบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ชนิดยืดหยุ่น (Flexible Printed Circuit Board: FPCB และ FPCBA)
ทั้งนี้ FPCB มีคุณสมบัติพิเศษสำหรับใช้กับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่โค้งงอให้เข้ากับพื้นที่และรูปทรงที่ซับซ้อนได้ มีข้อดีตรงที่รูปทรงบางและเบาเหมาะสำหรับการใช้งานในผลิตภัณฑ์ที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่และน้ำหนัก ซึ่งปัจจุบัน FPCB มีการนำไปใช้ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กอย่างสมาร์ทคอนแทคเลนส์ ไปจนถึงแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าและถือว่าเป็นกลุ่ม PCB ที่มีมูลค่าสูง
โดยโครงการของเม็กเท็คที่ได้รับการส่งเสริมใหม่ในครั้งนี้ เป็นการขยายกำลังการผลิต FPCB และ FPCBA รองรับคำสั่งซื้อในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น มีเงินลงทุน 920 ล้านบาท จ้างงานบุคลากรไทยเพิ่ม 260 คน ซึ่ง ปัจจุบันจ้างงานกว่า 3,000 คน และใช้วัตถุดิบในประเทศเพิ่มอีกกว่า 2,500 ล้านบาทต่อปี
“ประเทศไทยได้รับการยอมรับให้เป็นฐานการลงทุน PCB แห่งใหม่ของเอเชีย ในช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมา มีทั้งการขยายการลงทุนของผู้ผลิตรายเดิม เช่น Mektec, KCE และการลงทุนตั้งโรงงานใหม่โดยบริษัทผู้ผลิต PCB ระดับโลกจำนวนมาก เช่น Unimicron, Compeq, WUS, Gold Circuit, Chin Poon, Dynamic Electronics, Apex Circuit, Unitech และ Well Tek โดยคาดว่าในช่วง 1 – 2 ปีข้างหน้า จะยังมีผู้ผลิต PCB และกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ผลิตวัตถุดิบและชิ้นส่วน เช่น Prepreg และ Copper Clad Laminate รายสำคัญจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยยกระดับ Supply Chain ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น PCB ถือเป็นหัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ การมีฐานการผลิต PCB จะเพิ่มโอกาสการพัฒนาผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ได้หลากหลาย และต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้อีกมาก” นายนฤตม์ กล่าว
ด้าน นายสมชาย อัศวรุ่งแสงกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เม็กเท็ค แมนูแฟ็คเจอริ่ง คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ชนิด FPCB ระดับโลกจากญี่ปุ่น กล่าวว่า เม็กเท็คมีแต้มต่อในการลงทุนอย่างมากจากการได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในหลายโครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,800 ล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่เป็นการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น FPCB, FPCBA เป็นต้น
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าธุรกิจกลุ่ม PCB ในไทยจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากแรงขับเคลื่อนที่มาจากการเติบโตของเทคโนโลยี 5G ความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกับ IoT การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ AI ความก้าวหน้าในการพัฒนาเครื่องมือแพทย์ และอื่น ๆ รวมถึงมาตรการส่งเสริมจากบีโอไอที่เปิดให้การส่งเสริมธุรกิจกลุ่ม PCB แบบครบวงจร ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้อุตสาหกรรม PCB มีโอกาสเติบโตมากขึ้นในอนาคต
ขณะที่ เม็กเท็ค มีโรงงานผลิตและสำนักงานขายกระจายอยู่ทั่วโลก โดยเม็กเท็คได้เข้ามาลงทุนในไทย เพื่อผลิต PCB ชนิดยืดหยุ่น หรือ FPCB ตั้งแต่ปี 2538 ด้วยซัพพลายเซนที่เข้มแข็งในอุตสาหกรรม PCB ของประเทศไทย และนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลไทย ทำให้บริษัทเกิดความเชื่อมั่นในประเทศไทย และเดินหน้าขยายการลงทุนเพิ่ม พร้อมทั้งได้เริ่มลงทุนในกระบวนการผลิตใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเส้นลายวงจรขนาดเล็ก (Fine Pitch) และ Battery Management System (BMS) ที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นในปี 2568
รวมถึงการพัฒนาระบบ AI และระบบอัตโนมัติต่าง ๆ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายการลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยเฉลี่ย 300 ล้านบาทต่อปี และการลงทุนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของโรงงานอีก 200 ล้านบาทต่อปี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเม็กเท็คให้ก้าวสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะ สอดรับกับวิสัยทัศน์ของเม็กเท็คที่ได้วางตำแหน่งขององค์กรในการเป็นผู้สนับสนุนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก