SVR โกยยอดขาย “แกรนด์ สิวารมณ์ 1” 900 ลบ. จ่อผุดโครงการ 2 มูลค่า 1.3 พันลบ.

นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยถึงความสำเร็จโครงการบ้านเดียว “แกรนด์ สิวารมณ์ 1” (สุขุมวิท-บางปู) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์แล้วกว่า 90% ปัจจุบัน มีจำนวนยูนิตเหลือขายเพียงประมาณ 10% มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2568 โดยโครงการดังกล่าว สามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลา 3 ปีเศษตามนโยบายการลงทุนของบริษัทฯ

“โครงการแกรนด์ สิวารมณ์ 1 (สุขุมวิท-บางปู) เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ English Cottage ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ บนถนนสุขุมวิท รวมจำนวน 227 ยูนิต บนพื้นที่ 50-1-00.2 ไร่ มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ประกอบด้วย แบบ Luther ที่ดิน 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 214 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ, แบบ Marble ที่ดิน 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และแบบ Simon ที่ดิน 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

โดยการออกแบบได้แรงบันดาลใจจากประเทศอังกฤษ ยุคที่ปกครองโดยราชินีวิคตอเรีย (Queen Victoria) รูปลักษณ์ดีไซน์โดดเด่น สีสันของบ้านเน้นสี Earth Tone พร้อมสโมสรสุดหรู สไตล์ Modern English Victorian ตอบโจทย์ Life Style  คนยุคใหม่ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ  คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะ, Play Ground, Pets Zone, Exercise Outdoor, Jogging Lane, Colosseum Zone, Street Basketball, Street Soccer, Co-Working Space และมีระบบรักษาความปลอดภัย เข้า-ออก ด้วยระบบ Easy Pass,  และติดตั้งกล้อง CCTV ภายในโครงการ

ทั้งนี้ด้วยความต้องการบ้านขนาดใหญ่บนทำเลดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มีการปรับผังเดิมของโครงการแกรนด์ สิวารมณ์ 1 จากที่มีบ้านขนาดใหญ่ (ไซต์ L) จำนวน 25 ยูนิต และสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว จึงมีการปรับผังโครงการแกรนด์ สิวารมณ์ 1 โดยเพิ่มบ้านขนาดใหญ่เป็น 34 ยูนิต และลดบ้านขนาดกลาง (ไซต์ M) ลงเหลือ 63 ยูนิต จากผังเดิมที่วางไว้ 77 ยูนิต ถึงแม้บ้านไซต์ L จะเพิ่มมากขึ้นอีก 9 ยูนิต ปัจจุบันบ้านขนาดใหญ่ ไซต์ L ก็ได้ปิดการขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะเปิดขายโครงการแกรนด์ สิวารมณ์ 2 (สุขุมวิท-บางปู) โดยจะเน้นพัฒนาบ้านขนาดใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในโซนดังกล่าว

“ในรัศมี 10 กิโลเมตร รอบๆ โครงการแกรนด์ สิวารมณ์ (สุขุมวิท-บางปู) SVR ไม่มีคู่แข่งใน segment  นี้เลย เนื่องจากโครงการของ SVR เป็นโครงการบ้านเดี่ยว ขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นเป็นโครงการบ้านแฝด  ทาวน์เฮ้าส์ และด้วยความต้องการของลูกค้าในโซนดังกล่าว มีความต้องการบ้านขนาดใหญ่ส่งผลให้โครงการแกรนด์ สิวารมณ์1 จึงเป็นที่ต้องการสูง ดังนั้นเมื่อโครงการดังกล่าวใกล้ปิดการขายได้หมด แต่ยังคงมีดีมานด์  ที่สูงขึ้นทำให้ SVR เตรียมพัฒนาโครงการแกรนด์ สิวารมณ์ 2 เพื่อทดแทนโครงการที่หมดไป” นายรณฤทธิ์ กล่าว

นายรณฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ โครงการแกรนด์ สิวารมณ์ 2 (สุขุมวิท-บางปู) มูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว บนที่ดินเริ่มต้น 50 ตรว. ติดถนนใหญ่ ใกล้สถานีตากอากาศ เชื่อมทำเลถนนสุขุมวิท ใกล้สถานีตากอากาศบางปู ที่สามารถเดินทางเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรม ทั้งนิคมฯ บางปู และนิคมฯ บางพลี ราคาเริ่มต้นที่ 4.5 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายได้ในช่วงต้นปี 2568

โดยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 ว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 เนื่องจากเป็นนโยบายที่ออกมาได้เหมาะสมสอดรับกับมาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ และลดค่าจดทะเบียนการจำนอง ที่จะหมดภายในสิ้นปีนี้ ดังนั้นนโนบายดังกล่าวจึงถือเป็นมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจในการซื้อบ้านได้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาฯ หวังว่า ภาครัฐควรจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ มาช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อช่วยผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่จะส่งต่อไปยังธุรกิจ Supply Chain ที่เกี่ยวข้อง

“อสังหาฯ ช่วงโค้งสุดท้ายเริ่มกลับมามีความคึกคัก เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการ    มีแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย ขณะที่ SVR ก็มีการออกแคมเปญทางการตลาดต่างๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และเพิ่มยอดขายในช่วงปลายปีด้วยเช่นกัน และคาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น”  นายรณฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย