MASTER ย้ายเทรด SET เปิดทาง “กองทุน” เข้าถือ! พ่วงดันสัดส่วนรายได้ต่างชาติปีนี้แตะ 30%

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เปิดเผยว่า วันนี้ (28 ต.ค.67) บริษัทย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เรียบร้อยแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายฐานนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย รวมถึงกองทุนทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่บริษัทเข้าซื้อขายในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) ได้มีกองทุนทั้งไทยและต่างประเทศหลายแห่งติดต่อมาเพื่ออยากเข้าลงทุนกับบริษัท ซึ่งการที่บริษัทย้ายเข้าซื้อขายในตลาด SET เพื่อเป็นการตอบโจทย์ให้นักลงทุนกลุ่มกองทุนที่ต้องการเข้ามาถือหุ้น

โดยการนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาด SET ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ สะท้อนให้เห็นภาพของการเติบโตทางธุรกิจอย่างสม่ำเสมอด้วยแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) ที่เป็นส่วนเข้ามาช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาดและ MASTER มีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนคู่ตลาดหุ้นไทย

ส่วนกรณีน้ำท่วมในภาคเหนือช่วงไตรมาส 3/67 ส่งผลให้ลูกค้าขอเลื่อนมาในช่วงไตรมาส 4/67 ดังนั้นจึงมีโอกาสทำให้ผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาส 4 เติบโตอย่างโดดเด่นจากที่อั้นมาจากช่วงไตรมาส 3

ด้านนางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนที่จะเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะ Regional Company โดยการย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ SET ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น หลังมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/67 ยังเป็นบวกต่อเนื่องตามอัตราการเติบโตของหัตถการจะยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับเห็นยอดการใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าต่างชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นอีก 10-15% สอดคล้องกับการบริหารจัดการในด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ และกลับไปยังระดับเดิม เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านการเติบโตของ MASTER ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2567เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

โดยเริ่มเข้าสู่ช่วง High season จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจากอินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว ที่วางเป้าหมายสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศอยู่ที่ 25-30% ผ่านการขยายตลาด และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับภูมิภาค

สำหรับในปีนี้บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้เติบโต 20%จากปีก่อน โดยเน้นเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) จากการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและเป็นกิจการระดับแนวหน้าในแต่ละภูมิภาค โดยใช้จุดแข็งทางด้านระบบและการจัดการ ผนึกกำลังสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกัน ภายใต้กลยุทธ์ Cross Boder-Cross Selling และ Cross Synergy ซึ่งถูกออกแบบให้เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวและรองรับการเติบโตของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ต่างชาติปีนี้ที่ 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 25.85% แต่คาดหวังว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 40% ในปี 68