นายกฯ เร่งดัน “สินค้าเกษตรไทย” ติดท็อป 5 โลก หลังยอดส่งออก 9 เดือนแรกพุ่ง 7.54 ล้านลบ.

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (28 ต.ค.67)  นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบันที่มีความท้าทายสูงจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอน ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนแต่การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังคงมีแนวโน้มสดใสและขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค. 67) ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลกมูลค่า 19,826 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการส่งออกไปกลุ่มประเทศคู่ค้าที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ด้วยมูลค่า 13,774 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 4.3 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 69% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด ซึ่งไทยครองแชมป์เป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอันดับที่ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับที่ 8 ของโลก

ขณะที่ ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน คิดสัดส่วนกว่า 31% ของการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยทั้งหมด ถัดมาคืออาเซียน สัดส่วน 15%, ญี่ปุ่น สัดส่วน 11% และเกาหลีใต้ สัดส่วน 3% ส่วนตลาดที่เติบโตได้ดี ได้แก่ อาเซียน ขยายตัว 39%, อินเดีย ขยายตัว 34%, ออสเตรเลีย ขยายตัว 23%, สิงคโปร์ ขยายตัว 10%, เกาหลีใต้ ขยายตัว 9% และญี่ปุ่น ขยายตัว 7%

ทั้งนี้ หากดู สถิติส่งออกสินค้าเกษตร เดือนส.ค. ขยายตัว 9% ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งยอดส่งออกสูงสุด ซึ่งจากรายงานสถิติการส่งออกรายเดือน พบว่า ความต้องการสินค้าเกษตรไทยเพิ่มขึ้น โดยในเดือนส.ค. 67 ประเทศไทยมียอดส่งออกสินค้าเกษตรไปประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 1,651 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 9% ส่วนการส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญ 5 อันดับต้นของไทย ขยายตัวเป็นที่น่าพอใจทุกรายการ โดยสินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกอันดับ 1 ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง ข้าว ยางพารา ไก่ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ตามลำดับ

ขณะที่ ข้อมูลล่าสุดภายหลัง สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยตัวเลขการส่งออกไทย ประจำเดือนก.ย. พบว่า มีมูลค่า 25,983.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 889,074 ล้านบาท ขยายตัว 1.1% โดยภาคการส่งออกขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ในทุกหมวดสินค้า

โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหารที่ได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก รวมทั้งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เติบโตต่อเนื่องตามวัฏจักร ประกอบกับสินค้ามีคุณภาพและราคาที่แข่งขันได้ ขณะที่เศรษฐกิจในตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่คลี่คลายส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดเหล่านี้เพิ่มขึ้น ส่วนภาพรวมส่งออก 9 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่า 223,176.0 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 7,957,895. ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.9 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ว่าแนวโน้มสถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรไทยในอนาคตมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น ถือเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งลดอุปสรรคและเงื่อนไขต่างๆในข้อติดขัดเพื่อสนับสนุนให้ผู้ส่งออกของไทย ทำธุรกิจได้ง่ายขึ้นซึ่งจะมีโอกาสส่งผลให้ไทยติดอันดับหนึ่งใน 5 ของโลกได้ในปีหน้า

โดยใช้ประโยชน์จากการดำเนินการของรัฐบาลที่เปิดโอกาสในการสร้างข้อตกลง FTA อย่างเต็มที่ ปัจจุบันไทยได้เจรจาจัดทำ FTA สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยทั้งสิ้น 14 ฉบับกับคู่ค้า กับคู่ค้า 18 ประเทศคู่ค้า ซึ่งปัจจุบัน 18 ประเทศคู่ FTA ของไทย ได้ลดและยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกส่วนใหญ่แล้ว อาทิ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่แปรรูป และผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง