ปัจจัยลบรุมเร้า SET เสี่ยงหลุดแนวรับ 1,274 ชง 20 หุ้นเน้นปันผลแจ่ม-รับผลดีน้ำมันขาลง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้คาดปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังราคาน้ำมันดิบปิดร่วงกว่า 5% กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงการปรับลดลงแรงของ Dow Jones ที่จะเป็นปัจจัยกดดันดัชนีในวันนี้ ทั้งนี้คาดว่าดัชนีจะหลุดแนวรับ 1,285 จุด ไปที่แนวรับถัดไปที่ 1,274 และ 1,254 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.02 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.79 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียต่างร่วงลงถ้วนหน้าในเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องและส่งผลอย่างรุนแรงต่อผลประกอบการของบริษัทพลังงานรายใหญ่ รวมถึงบีพี และเอ็กซอน โมบิล

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้คาดปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังราคาน้ำมันดิบปิดร่วงกว่า 5% กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงการปรับลดลงแรงของ Dow Jones ที่จะเป็นปัจจัยกดดันดัชนีในวันนี้ ทั้งนี้คาดว่าดัชนีจะหลุดแนวรับ 1,285 จุด ไปที่แนวรับถัดไปที่ 1,274 และ 1,254 จุด

หุ้นเด่นวันนี้เลือกกลุ่มหุ้นปันผลดีและได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง ได้แก่ TASCO, AAV, EPG, SAWAD, BH, CHG,MINT, INTUCH, ADVANC, SIRI, DIF, CPNRF, TISCO, KTB, TU, CPF, SVI, KEC,  GLOW, FSMART

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ มองว่า ภาวะตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลงจากแรงกดดันในเรื่องราคาน้ำมันที่หลุด 30 เหรียญ/บาร์เรล และแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจโลก หลังตัวเลขภาคการผลิตทั้งสหรัฐฯและจีนออกมาไม่ดี ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับลงเช่นกันเฉลี่ย 1% ตามแรงกดดันข้างต้น

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม คือการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ แต่อาจจะมีความเห็นเกี่ยวกับความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกเช่นกัน อีกทั้งจับตาตัวเลขภาคการผลิต (PMI) ทั่วโลก,ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนม.ค.ของสหรัฐ

พร้อมให้แนวรับวันนี้ 1,260-1,275 จุด แนวต้าน 1,295-1,300 จุด

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (3ก.พ.) ว่ามีมุมมองเป็นกลางถึงลบต่อตลาดวันนี้เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่หนุนนำ คาด SET น่าจะปรับลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคบนความเสี่ยงของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ(WTI) ที่ร่วงลงมาแตะระดับ US$29.88/บาร์เรลอีกครั้งหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่านักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ตกต่ำหรือหุ้นที่มักจะวิ่งสวนราคาน้ำมัน นอกจากนี้วันนี้นักลงทุนจะต้องตามผลประชุมกนง. บ่ายนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ยเท่าเดิม 1.5% และจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่ม Micro finance สำหรับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จะทำให้มีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มส่งออก ท่องเที่ยว โรงแรม เป็นต้น

กลยุทธ์วันนี้ : Seclective BUY/ซื้อเมื่ออ่อนตัว ขึ้นขาย/เน้นเล่นรอบสั้น

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : TU CPF SVI KEC และ MINT (ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน)

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (3ก.พ.) ว่าการปรับลดลงแรงของ Dow Jones -1.8% และราคาน้ำมันดิบ NYEX ต่ำกว่า US$30/bbl อีกครั้งเมื่อคืนนี้ เป็นปัจจัยกดดันหุ้นใหญ่ในกลุ่มพลังงาน และ SET วันนี้ คาดว่าจะหลุดแนวรับ 1,285 จุด ไปที่แนวรับถัดไปที่ 1,274 และ 1,254 จุด ตามลำดับ โดยมองการ “พักฐาน” อยู่ในรูปแบบ “Sector Rotation” มายังกลุ่มหุ้น 2nd Tier ที่ Underperform ตลาดในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างกลุ่มโรงพยาบาล โรงแรม และ Micro Finance ขณะที่ระยะสัปดาห์ยังลุ้นไปที่ 1,320 จุดเหมือนเดิม (ถ้าหลุด 1,254 จุด จะดูไม่ดี)

แนะนำ 1. “เก็งกำไร” ระยะสั้น กลุ่มหุ้นที่ไดรับผลดีจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันอย่างรวดเร็ว TASCO (Stop loss 30), AAV, EPG

2. กลุ่ม 2nd-Tier ที่เป็นเป้าหมาย Sector Rotation: SAWAD, BH, CHG และ MINT (ซื้อโรงแรม Tivoli เป็น Upside ต่อกำไร)

3. High Div Yield: INTUCH ADVANC SIRI DIF CPNRF TISCO KTB

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (3ก.พ.) ว่าตลาดหุ้นดาวโจนส์คาดจะยังถูกแรงกดดันจากผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มพลังงาน อีกสักพัก ส่วนทิศทางดัชนี SET ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวลง คาดยังคงมีแรงกดจากหุ้นน้ำมันแต่คงไม่มาก เนื่องจากการลงของราคาน้ำมันยังอยู่ในกรอบจำกัดหลังปริมาณการ Short ที่ลดลงของบรรดา Hedge fund ส่วนหนึ่งจะพยุงไม่ให้น้ำมันไหลลงลึก

โดย ณ สิ้นเดือนม.ค. Hedge fund ได้มีการ Short position น้ำมันดิบเบรนท์และ WTI ในตลาด Future/Option ลดลงประมาณ 7% จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ คือจาก 378 ล้านบารเรล์เหลือ 347 ล้านบารเรล์ นอกจากนั้นในช่วงหลังกลับเริ่มมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ธนาคาร ค้าปลีกและท่องเที่ยว

วันนี้คาดดัชนียังคงแกว่งตัวลง จากแรงกดดันของราคาน้ำมันและการปรับตัวลงของดัชนีในภูมิภาค โดยมีแนวรับที่ 1278-1274 จุด แนวต้านที่ 1290-1295 จุด

Fundamental Stock :

=> FSMART : COMPANY NOTE – 4Q15 กำไรทำจุดสูงสุดใหม่ด้วยจำนวนตู้ทะลุเป้า (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท)

=> GLOW : COMPANY NOTE – จากหุ้นเติบโตสู่หุ้นปันผล (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 88.00 บาท)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (3ก.พ.) ว่าวานนี้ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มปรับลดลงอีกครั้ง ขณะที่กลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบจากการกันสำรองหนี้สำหรับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อได้ วันนี้ติดตามการประชุม กนง. Consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5 % กลยุทธ์การลงทุน วาง Filter แนวรับสำคัญไว้ที่ 1,270 – 1,280 จุด ในกรณียืนไม่ได้แนะนำลดพอร์ตลงอีกครั้ง เพื่อรอประเมินปัจจัยเสี่ยงจากราคาน้ำมันและค่าเงินหยวนที่อาจมีผลกระทบด้านลบต่อภาวะการลงทุนอีกครั้ง

 

Back to top button