“ทิสโก้” เปิดกลยุทธ์ลงทุน “บอนด์ยีลด์-ทอง-หุ้น” คาด “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ
‘ทิสโก้’ มอง ‘ทรัมป์’ มีลุ้นคว้าชัยนั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัย 2 แนะซื้อบอนด์ยีลด์-ทอง-หุ้น รับตลาดขาขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ต.ค. 67) นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ หรือ TISCO ESU เปิดเผยว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นับเป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามอง ล่าสุดผลสำรวจเป็นรายรัฐ พบว่า อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนำ กมลา แฮร์ริส ในเกือบทุกรัฐสำคัญ (swing states) ที่จะชี้ขาดผลการเลือกตั้ง
ขณะที่อัตราต่อรองในตลาดพนัน ก็ชี้ว่า ทรัมป์มีโอกาสชนะเลือกตั้งที่ความน่าจะเป็น ราว 60% ซึ่งหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและดำเนินนโยบายตามที่หาเสียงไว้ จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด และอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงประเทศไทยด้วย
โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ แนะนำให้นักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างระมัดระวัง โดยเน้นลงทุนใน พันธบัตรสหรัฐอเมริกา (บอนด์ยีลด์) และทองคำ
ส่วนพอร์ตหุ้นเน้นลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งจะได้ผลบวกจากนโยบายการลดภาษีนิติบุคคล ขณะที่หุ้นในตลาดเกิดใหม่ให้เน้นลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียและญี่ปุ่น ที่ตลาดเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ค่อนข้างมากกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคและไม่ถูกกดันจากประเด็นดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า
นายคมศร กล่าวอีกว่า หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งจะส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ พุ่งขึ้น และดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า เนื่องจากนโยบายหาเสียงหลักของทรัมป์ เช่น การขึ้นกำแพงภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนและประเทศอื่น ๆ รวมถึงการพยามเนรเทศแรงงานผิดกฎหมายจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด
โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ประเมินว่าการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลก 10% และสินค้าจากจีน 60% ตามที่ทรัมป์หาเสียงจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐ เพิ่มขึ้นราว 1% ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ค้างอยู่ที่ราว 3% เฟดอาจลดดอกเบี้ยลงไปได้อย่างต่ำสุดที่ 4% สูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่มองว่า ดอกเบี้ยจะลดลงไปถึงระดับ 3.5% ในขณะที่นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดภาษีนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาจะทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น และต้องกู้เงินผ่านการออกพันธบัตรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บอนด์ยีลด์พุ่งขึ้นเพื่อดึงดูดให้นักลงทุนซื้อพันธบัตรในปริมาณที่เพิ่มขึ้น โดย TISCO ESU ประเมินว่า บอนด์ยีลด์อาจขึ้นไปยืนเหนือ 4.5% หากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง