ฮึดสู้

หลังจากเล่นเกมรับเป็นเวลาร่วม 2 สัปดาห์ ก็เป็นจังหวะที่ตลาดหุ้นไทยหันมาเล่นเกมรุกอีกครั้ง พร้อมกับคำอธิบายแบบเดิม ๆ


หลังจากเล่นเกมรับเป็นเวลาร่วม 2 สัปดาห์ ก็เป็นจังหวะที่ตลาดหุ้นไทยหันมาเล่นเกมรุกอีกครั้ง พร้อมกับคำอธิบายแบบเดิม ๆ ว่า กองทุนนกเริ่มกดคันเร่งซื้อรอบใหม่ จึงทำให้หุ้นใหญ่กลับมาโชว์ฟอร์มสวยกันอย่างถ้วนหน้า และทำให้ดัชนีขึ้นมายืนเหนือแนวต้านสำคัญ 1,460 จุดอีกครั้ง ส่วนจะยืนได้แบบสะดวกโยธินแค่ไหน? ก็ต้องติดตามดูกันไปเรื่อย ๆ แบบวันต่อวันนะตัวเอง

ถามว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,466.04 จุด บวกไป 18.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.27 หมื่นล้านบาท ดีต่อใจขนาดไหน? เดี๊ยนขอตอบว่า ดีกับทุกคน เพราะทำให้แมงเม่าออกของอีกครั้ง หลังเป็นฝ่ายไล่ซื้อหุ้นมาพักหนึ่ง ถึงกระนั้นก็ควรเผื่อใจให้กับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันไว้บ้าง เพราะอาการลิงโลดมักมาแค่ช่วงสั้น ๆ ต่อจากนั้นก็โรยตัวลงมาอีกครั้ง พวกคุณ ๆ ท่าน ๆ ยังจำกันได้บ่!

ที่สำคัญคือ สตอรี่อีกตัวหนึ่งที่จะเป็นตัวผลักดันตลาดหุ้นก็คือ “กองทุนไทย ESG” ซึ่งหลายคนประเมินกันว่า จะมีเม็ดเงินก้อนใหม่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น และเมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อปลายปีก่อนจะเห็นว่า กองทุนนี้มีเงินก้อนใหม่เข้ามาราว 6 พันล้าน และเม็ดเงินจำนวนนี้น่าจะช่วยพยุงให้ดัชนียืนเหนือระดับ 1,500 จุดอย่างมั่นคง (ถ้าปีนี้มีเข้ามาเท่ากับปีที่แล้ว) จึงกลายเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องประเมินกันเอาเองว่า วันนี้จะเล่นท่าไหน?

โดยเฉพาะการดีดตัวของแบงก์รัฐ KTB ยังเป็นตัวเต็งสำหรับการลงทุนเหมือนเดิม แต่เผอิญข้อมูลเก่า ๆ ยังชอบตามหลอกหลอนว่า ไตรมาส 4 มักทำผลงานไม่ดีเป็นประจำ “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า การย่อตัวจากระดับ 22 บาทลงมาเรื่อย ๆ แถมวานนี้ทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 20.50 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.20 พันล้านบาท มันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แค่ไหน? หรือมันเป็นแค่ภาวะไม่เป็นใจ?..อิอิอิ

ส่วนประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกคาใจสุด ๆ และกังวลสุด ๆ น่าจะเป็นในรายของปูนใหญ่ SCC เพราะการดีดตัวขึ้นจากก้นเหว 200 บาท มาปิดที่ระดับ 210 บาท บวกไป 5 บาท หรือขึ้นไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 678 ล้านบาท ท่ามกลางผลงานที่ยังทรุดไม่เลิก เพราะธุรกิจปิโตรเคมียังเป็นตัวถ่วงภาพรวมบริษัท อันเป็นผลมาจากงวดล่าสุดขาดทุนเป็นพันล้านแบบนี้..หุ้นจะไปต่อยาว ๆ ได้อย่างไรคะ

อีกรายที่ทำให้เดี๊ยนงงมากไม่แพ้รายอื่น ๆ คงต้องมองไปที่หุ้น ERW เป็นรายถัดมา เพราะเห็นทนโท่ว่า ผลงานในครึ่งปีแรกมาดีเหลือเกิน และในช่วงไตรมาส 4 น่าจะดีต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นดันซึมลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ดีดตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ4 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 101 ล้านบาท เดี๊ยนเลยหวังในใจว่า เที่ยวนี้น่าจะวิ่งกลับขึ้นไปหายอดเก่าที่บริเวณ 4.50 บาทได้ไม่ยากกระมัง!

สำหรับรายที่มีเซอร์ไพร์สให้เห็นเป็นช่วง ๆ ต้องยกให้กับหุ้น COM7 หลังพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 28 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 543 ล้านบาท พร้อมกับข่าวเม้าท์ที่ว่า กำไรไตรมาส 3 จะออกมาดี เพราะได้แรงหนุนจากไอโฟน 16 และประเด็นนี้จะช่วยดันงบไตรมาส 4 โตอีก อันเป็นผลมาจากรัฐบาลมักอัดแคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปี และหุ้นตัวนี้มักได้อานิสงส์เป็นประจำเจ้าค่ะ

ส่วนรายของ DOHOME อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ผลงานจะออกมาดีต่อเนื่องหรือเปล่า? เพราะราคาหุ้นแกว่งตัวไปมาในกรอบ 9.50-12.00 บาทเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน ผนวกกับไตรมาส 3 มักเป็นช่วงโลว์ซีซั่นที่ทุกธุรกิจต้องเผชิญ “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.40 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 85 ล้านบาท แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างไรค่ะ

รายที่แตกต่างแน่ ๆ คงต้องมองไปที่หุ้น PR9 เพราะดันเกิดเรื่องเศร้าใจที่พัวพันกับการบริหารงาน และยังเป็นเรื่องที่สังคมกำลังให้ความสนใจอย่างมาก ขณะที่ตอนนี้ยังไม่มีคำอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด จึงกลายเป็นหุ้นที่ผู้คนอยากเห็นผู้บริหารออกมาแสดงความรับผิดชอบ จึงกลายเป็นว่า ทุกย่างก้าวต่อจากนี้จะถูกสังคมจับตามากเป็นพิเศษค่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button