GULF บวกต่อ 1% เก็งกำไร Q3 ทะลุ 91% ลุ้นชนะประมูล “พลังงานทดแทน” ใหม่ 5 พันเมกฯ

GULF บวกต่อ 1% เก็งกำไรไตรมาส 3/67 แตะ 6.4 พันล้านบาท โต 91% ลุ้นชนะประมูลพลังงานทดแทนตามแผน PDP2024 อย่างน้อย 5,000 เมกะวัตต์ จากการประมูลรอบใหม่ 10,000 เมกะวัตต์ ด้าน บล.บัวหลวง ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 75 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 พ.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ณ เวลา 10:33 น. อยู่ที่ระดับ 67.25 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.13% สูงสุดที่ระดับ 68.00 บาท ต่ำสุดระดับ 66.50 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 972.10 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมา ตอบรับข่าว GULF จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อรับทราบและอนุมัติงบการเงินประจำไตรมาส 3/2567 พร้อมกับรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 โดยถูกคาดหมายว่าตัวเลขจะออกมาทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

โดยนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/2567 GULF จะทำสถิติใหม่ที่ระดับ 6,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 35% จากไตรมาสก่อน ปัจจัยสนับสนุนมาจากกำไรที่เกิดจากกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าใหม่ และ GULF มีแนวโน้มรายงานกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐช่วงไตรมาสดังกล่าว

ขณะที่ กำไรหลักจะทำสถิติใหม่ในไตรมาส 4/2567 ที่ 5,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 10% จากไตรมาสก่อนหน้า แรงหนุนจากกำไรเต็มไตรมาสจากโรงไฟฟ้า IPP ใหม่ ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 จากผลประกอบการดังกล่าว จึงมีการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายหุ้น GULF เพิ่มเป็น 75 บาท จากเดิม 68 บาท โดยแนะนำเป็น “ซื้อ” อิงจากกรณีการควบรวมระหว่าง GULF กับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ในประมาณการ

สำหรับแผน PDP2024 ใหม่ จะเปิดโอกาสให้มีการประมูลพลังงานหมุนเวียนเพิ่มอีก 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2569-2570 คาดว่าแต่ละ 1,000 เมกะวัตต์ ของกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ จะเพิ่มประมาณการกำไรระยะยาวของ GULF ขึ้น 3% และเพิ่มราคาเป้าหมาย 0.25 บาท

ขณะที่แต่ละ 1,000 เมกะวัตต์ ของกำลังการผลิตพลังงานลมใหม่ จะเพิ่มกำไรได้ 10% และราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 1.44 บาท ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ GULF ชนะการประมูล 2,700 เมกะวัตต์ จาก 5,200 เมกะวัตต์ จึงคาดว่าบริษัทจะชนะการประมูลอย่างน้อย 5,000 เมกะวัตต์ จากการประมูลมากกว่า 10,000 เมกะวัตต์ ที่จะเกิดขึ้นอีกในไม่กี่ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการรับซื้อพลังงานทดแทนรอบ 2 จะล่าช้า แต่เชื่อว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. จะเปิดประมูลพลังงานทดแทนทั้ง 3,600 เมกะวัตต์ ได้ภายในปี 2568 แบ่งเป็น 2,200 เมกะวัตต์ ในครึ่งแรกปี 2568 และ 1,400 เมกะวัตต์ ช่วงครึ่งหลังปี 2569

ส่วนกรณีค่าเงินบาทแข็ง จะช่วยหนุนมาร์จิ้นโรงไฟฟ้า SPP ปี 2568 สูงขึ้น สำหรับทุกๆ 1 บาท ที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเฉลี่ยทั้งปี 2568) คาดว่าราคาก๊าซฯ จะลดลง 8-10 บาทต่อล้านบีทียู แสดงถึงโอกาสในการเพิ่มประมาณการกำไรของ GULF ขึ้น 1%

ทั้งนี้ กกพ.เผยว่าค่าไฟฟ้าสำหรับช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. อาจลดลง เนื่องจากราคาก๊าซฯ ที่ลดลง แต่คาดว่าราคาไฟฟ้าจะยังคงใกล้เคียงกับ 4.18 บาทต่อหน่วย ตลอดทั้งปี 2568 เนื่องจากมีภาระที่ต้องคืนหนี้ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. อีกจำนวนมาก

พร้อมกันนี้ ประเมินว่าราคาหุ้นบริษัทใหม่ (NEWCO) หลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง GULF กับ INTUCH แล้วเสร็จจะอยู่ที่ 72.50 บาท มูลค่าตลาดหรือมาร์เก็ตแคปจะอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF กล่าวว่า ตามที่บริษัทจัดให้มีผู้รับซื้อหุ้นของบริษัทฯ จากผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนคัดค้านธุรกรรมการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทและบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ที่ราคา 56.50 บาทต่อหุ้น ส่วน INTUCH ที่ราคา 91 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดระยะเวลารับซื้อหุ้นวันที่ 17-30 ต.ค. 2567 นั้น ปรากฏว่าไม่มีผู้ถือหุ้นที่คัดค้านรายใดแสดงความประสงค์ขายหุ้นของบริษัทให้แก่ผู้รับซื้อหุ้น

Back to top button