KBANK ชี้กรอบ “เงินบาท” สัปดาห์หน้า 33.50-34.30 บาท จับตาเลือกตั้งสหรัฐ-เงินเฟ้อไทย
KBANK มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 4-8 พ.ย.67 ที่ระดับ 33.50-34.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แนะติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 4-8 พ.ย.67ที่ระดับ 33.50-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (5 พ.ย.) ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด (6-7 พ.ย.) ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ โดยเฉพาะค่าเงินหยวน
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือนต.ค.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นสำหรับเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม BOE (7 พ.ย.) รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค. ของจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น และยูโรโซนด้วยเช่นกัน
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลงช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯยังมีแรงหนุนต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายนับถอยหลังสู่วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับภาพรวมของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค นำโดยเงินเยนซึ่งเผชิญแรงขายท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองในญี่ปุ่น สวนทางกับเงินดอลลาร์ฯที่ได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดีเงินบาทพลิกแข็งค่าในช่วงกลางสัปดาห์โดยได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลก เงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์โดยทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ 33.92 บาทต่อดอลลาร์ฯโดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงขายทำกำไรทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯยังคงแข็งค่าขึ้นท่ามกลางมุมมองของตลาดที่ประเมินความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์อาจชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ (The Trump Trade)
ในวันศุกร์ที่ 1 พ.ย. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.79 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ต.ค. 67)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 28 ต.ค.-1 พ.ย. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 9,644 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 4,892 ล้านบาท (แบ่งเป็น ขายสุทธิพันธบัตร 4,890 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 2 ล้านบาท)