SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” จับตา “เงินเฟ้อ” ไทย ต.ค.- เลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ

บล.กรุงศรี มอง SET สัปดาห์นี้ (4 พ.ย. – 8 พ.ย.67) “ฟื้นตัว” ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน ต.ค. พ่วงผลการประชุม “เฟด” คาดลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 4.5-4.75% สอดคล้องตลาดคาด และติดตามเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 6 พ.ย.นี้ ฟากโบรกแนะหุ้นเด่น ADVANC-IVL-GULF


“สำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ (4 พ.ย. – 8 พ.ย.67) โดยเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ซึ่งประเมินตลาดหุ้นไทย “ฟื้นตัว” ให้แนวรับที่ 1,500 – 1,487 จุด แนวต้าน 1,444 – 1,432 จุด ขณะที่ ปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index ซึ่งแนะนำให้นักลงทุนติดตาม ได้แก่

ในวันที่ 5 พ.ย. นี้ จะมีการเปิดตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ CPI ประจำเดือน ต.ค.67 ซึ่งตลาดคาดการณ์จะทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า, ขณะที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อเปรียบเทียบกับการปรับตัวลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และ เพิ่มขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

พร้อมกันนี้จะมีการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันเดียวกัน ซึ่งคาดการณ์เริ่มมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการเปิดเผยรายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์

ส่วนในวันที่ 6 พ.ย.67 MSCI Rebalance Announcement หรือ MSCI จะประกาศผลการ Rebalance รายประเทศและหุ้นเข้า – ออก โดยจะใช้ราคาปิดในช่วงปลายเดือน ต.ค. กำหนด ขณะที่การ Rebalance จะมีผลวันที่ 26 พ.ย. 67 (ราคาปิดวันที่ 25 พ.ย.)

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ไม่มี หุ้นเข้า และ SCGP มีความเสี่ยงที่อาจจะหลุดออกจากดัชนี ขณะที่ หุ้นไทยหลายตัวที่มีอยู่ในดัชนีมีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนัก เนื่องจาก Performance ที่ดีขึ้นกว่าภาพรวมในช่วงที่ผ่านมา ผสานเกณฑ์หุ้นที่มีแรงหนุนระยะนี้ ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ อาทิ GULF, KTC, TRUE, KTB, CPAXT, AOT, KBANK, CPALL และ ADVANC เป็นต้น

นอกจากนี้ ปัจจัยที่น่าติดตาม คือ รายงานกำไรไตรมาส 3/67 ของกลุ่ม Real Sector อาทิ PTTGC, TU, BCP, AP, BH, BJC, CPAXT, GPSC, KCE, MTC, CBG, WHA, JMT, INTUCH, TOP ซึ่งหุ้นคาดการณ์กำไรปรับตัวดี ได้แก่ TU, BH, CPAXT, MTC, CBG, WHA, INTUCH เป็นต้น

อย่างไรก็ตามยังคงมีปัจจัยภายนอกประเทศที่น่าติดตาม ดังนี้ ในวันที่ 5 พ.ย. แนะนำติดตามการเลือกตั้งสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าจะทราบอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 6 พ.ย. ของไทย ขณะที่ถัดมาในวันที่ 6-7 พ.ย. จะมีการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) MUFG ซึ่งคาดการณ์จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 4.5-4.75% สอดคล้องกับมุมมองของตลาดคาดการณ์

ส่วนวันที่ 7 พ.ย. จีนจะมีการประการยอดส่งออกและนำเข้า ประจำเดือน ต.ค. ทั้งนี้ไม่มีคาดการณ์ ซึ่งก่อนหน้านั้นตัวเลขปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 0.3%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อีกทั้งในวันเดียวกันนี้จะมีการประชุม ธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งตอนนี้ไม่มีคาดการณ์  ซึ่งหากเปรียบเทียบกับก่อนหน้าที่มีการจัดประชุมนั้น คณะกรรมการมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.0%

ด้านกลยุทธ์การลงทุน ประเมินสัปดาห์หน้า “ฟื้นตัว” แม้เป็นโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ 5 พ.ย. แต่อัตราพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bond Yield) ที่เร่งมาอยู่ระดับ สูงสุดใน 3 เดือน น่าจะสะท้อนความเสี่ยงกรณี Donald John Trump มีโอกาสชนะสูงขึ้นไปบ้างแล้ว ซึ่งคาดการณ์แรงหนุนจาก Bond Yield คลายลง ตามภาคจ้างงานสหรัฐฯที่ชะลอลงผลจากพายุ จะสนับสนุนบรรยากาศการลงทุน ภายในประเทศแนะนำติดตามรายงานกำไรไตรมาส 3/67 กลุ่ม Real Sector คาดการณ์ ADVANC จะมีทิศทางกำไรเติบโต

ขณะที่ SCC, SCGP, HMPRO, PTTEP คาดการณ์ปรับตัวลดลง ส่วนหุ้นเด่น ได้แก่ 1.) กลุ่มอิงดอกเบี้ยขาลง อาทิ โรงไฟฟ้า, เช่าซื้อ และหนี้สูง High Yield 2.) กลุ่ม Domestic ที่ได้ประโยชน์ทนทานต่อความเสี่ยงจากการเลือกตั้งสหรัฐฯและกำไรไตรมาส 3/67 ปรับตัวดี อาทิ สื่อสาร, นิคม,โรงพยาบาล และค้าปลีก เป็นต้น อย่างไรก็ตามฝ่ายนักวิเคราะห์มีหุ้นเด่นประจำสัปดาห์ ได้แก่

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC นับเป็น 1 ในหุ้นหลักธีมโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ Infra Tech , High Yield รวมถึง Earning Upgrade Cycle โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 300 บาท

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/67 เติบโตสดใส และลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนสัปดาห์นี้ โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 34.00 บาท

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF นับเป็นหุ้นหลักในธีม Infra Tech เป้าหมายกองทุนรวมที่ระดมเงินลงทุนในประเทศและลงในประเทศ Domestic LT Fund ซึ่งแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 68 บาท

Back to top button