SAWAD ตัดสาขา..เพิ่มมาร์จิ้น

ในอดีตหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์เคยเป็นดาวเด่นของตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดด อาจเป็นเพราะตอนนั้นยังมีผู้เล่นน้อยราย


ในอดีตหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์เคยเป็นดาวเด่นของตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดด อาจเป็นเพราะตอนนั้นยังมีผู้เล่นน้อยราย การแข่งขันต่ำ แต่ละค่ายจึงมีกำไรอู้ฟู่…แต่มาตอนนี้แม้ไม่ถึงขั้นเป็นดาวดับ แต่แสงที่เคยเจิดจ้าเริ่มหรี่แสงลง เป็นเพราะมีผู้เล่นเยอะขึ้น ทั้งรายเล็ก รายกลาง และรายใหญ่ เต็มไปหมด…

ถ้าในเมืองใหญ่ก็มีแทบทุกปากซอย ส่วนในต่างจังหวัดก็มีแทบทุกตำบล ส่งผลให้ภาวะการแข่งขันสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องงัดโปรโมชั่นเด็ดมาสู้ สิ่งที่ตามมาทำให้มาร์จิ้นลดลงต่อเนื่อง..!?

เห็นได้ชัดจากงบของ 3 ผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เดิมในปี 2564 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 49.24% ถัดมาปี 2565 อัตรากำไรสุทธิลดลงเหลือ 39.32% ส่วนปี 2566 อัตรากำไรสุทธิเหลือ 27.78% ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกปี 2567 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 24.20%

ฟากบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เดิมในปี 2564 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 30.87% ถัดมาปี 2565 อัตรากำไรสุทธิลดลงเหลือ 25.38% และปี 2566 อัตรากำไรสุทธิเหลือ 20.01% ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกปี 2567 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 21.05%

ส่วนบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เดิมในปี 2564 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 26.30% ถัดมาปี 2565 อัตรากำไรสุทธิลดลงเหลือ 23.83% และปี 2566 อัตรากำไรสุทธิเหลือ 19.98% ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกปี 2567 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 20.38%

อัตรากำไรสุทธิที่ลดลง ก็หมายถึงมาร์จิ้นที่แคบลงเรื่อย ๆ นั่นเอง…

วิธีการจะขยายมาร์จิ้น ก็ต้องไปสร้างยอดขายให้เติบโต หาลูกค้าเพิ่มขึ้น แต่ด้วยการแข่งขันที่สูงปรี๊ดดด อาจทำได้ไม่ง่ายนัก ส่วนอีกวิธีต้องไปลดขาของต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน ค่าใช้จ่ายการเปิดสาขา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยเฉพาะต้นทุนการเปิดสาขา ถือเป็นหนึ่งในต้นทุนหลักของผู้ประกอบการ

แต่เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทันสมัยขึ้น ก็อาจช่วยให้ความจำเป็นในการเปิดสาขาลดน้อยลง…

อย่างกรณีของ SAWAD ประกาศชัดจะปรับลดจำนวนสาขาลง แล้วหันมาเน้นการให้บริการผ่านแอปพลิเคชันแทน โดยเน้นปิดสาขาที่มีค่าเช่าสูง เช่น ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา เป็นต้น

แม้ยังไม่ได้เริ่มในทันทีทันใด จะเริ่มในอีก 3 ปีข้างหน้า แต่ชัดเจนว่า SAWAD มีแนวคิดจะตัดสาขา…เพื่อตัดต้นทุน..!!

โดยปัจจุบัน SAWAD มีสาขารวมประมาณ 5,500-5,600 สาขา ส่วนในปี 2568 ยังคงขยายสาขาเพิ่มในพื้นที่ที่ลูกค้ายังเข้าไม่ถึง มีเป้าหมายเปิดเฉลี่ยวันละ 1 สาขา หรือต่อปีระหว่าง 350-400 สาขา

ในระหว่างนี้ สิ่งที่ทำควบคู่กันไปก็คือ การพัฒนาแอปพลิเคชัน “ศรีสวัสดิ์” ภายใต้สโลแกน “แอปดีชีวิตคล่อง ที่ต้องมีติดเครื่อง” ซึ่งเปิดใช้บริการมาตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามียอดดาวน์โหลดแล้วประมาณ 280,000 ครั้ง จากฐานลูกค้าทั้งหมด 2 ล้านราย

SAWAD มีเป้าหมายที่ต้องพุ่งชนด้วยการทั้งผลักและดันให้ลูกค้าทั้ง 2 ล้านราย ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันศรีสวัสดิ์ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายและสะดวกขึ้น

ก็น่าจับตาการปรับกลยุทธ์ของ SAWAD จะทำให้อัตรากำไรสุทธิกลับมาเฉิดฉายได้หรือเปล่า..?

คงต้องติดตามกันต่อไป…

เพราะหากอัตรากำไรสุทธิเฉิดฉายเมื่อใด นั่นหมายถึงกำไรก็มีโอกาสผงาดตามไปด้วย…ทราบแล้วเปลี่ยน..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button