IROYAL เทรดวันแรก! โบรกชี้กำไรปี 67 โต 60% แตะ 115 ล้าน เคาะเป้าสูง 12.20 บาท
IROYAL ลงนามเทรดวันแรก! โบรกคาดกำไรปี 67 โต 60% แตะ 115 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกจำนวนมากตามอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า พร้อมขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 10.00-12.20 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (4 พ.ย.67) ว่าหลักทรัพย์ บริษัท อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ IROYAL ได้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรม บริการ
สำหรับ IROYAL มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 115 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 172 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 58 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 8.7 ล้านหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท รวมถึงผู้มีความสัมพันธ์ 5.8 ล้านหุ้น และบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 43.5 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 24-25 และ 28 ต.ค.67 ในราคาหุ้นละ 6.5 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 377 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,495 ล้านบาท
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 15.83 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้น 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ตั้งแต่ 1 ก.ค. 66-30 มิ.ย. 67) ซึ่งเท่ากับ 94.43 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.41 บาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
โดย IROYAL และบริษัทย่อยเป็นผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมเพื่อจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งกลุ่มบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบการผลิตของโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรม จากผู้ผลิตชั้นนำระดับสากล สามารถแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบต่าง ๆ ได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบเผาไหม้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบจัดการของเสียและไอเสีย ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบแลกเปลี่ยนความร้อน และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบอื่นๆ ให้บริการครอบคลุมงานติดตั้งและซ่อมบำรุง ด้วยการออกแบบ ให้คำปรึกษา และนำเสนอโซลูชั่น เพื่อตอบสนองตามความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการบริหารสินค้าคงคลังในส่วนที่กลุ่มบริษัทจัดหาและจำหน่าย
นายภณภัทร เมฆาสุวรรณดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IROYAL เปิดเผยว่า บริษัทมีประสบการณ์ในธุรกิจรวมกว่า 40 ปี มีความสามารถในการจัดหาอุปกรณ์และโซลูชั่น และให้บริการอย่างครบวงจรเพื่อสร้างความพึงพอใจ และความมั่นใจในผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เพื่อการประมูลและค้ำประกันผลงาน งานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
IROYAL มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลังเข้าจดทะเบียน คือ กลุ่มครอบครัวประภัทรโพธิพงศ์ ถือหุ้น 59.67% และนายภณภัทร เมฆาสุวรรณดำรง 6.05% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และจัดสรรทุนสำรองต่างๆ
บริษลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 เติบโตก้าวกระโดด 60% เป็น 115 ล้านบาท และเติบโตต่อเนื่องจากปี 67 อีกประมาณ 17% เป็น 135 ล้านบาท หนุนโดยงานที่รอส่งมอบ (Backlog) จำนวนมากที่กำลังเติบโตไปตามอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า
อีกทั้งการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้า เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีระบบการเผาไหม้ (Combustion System) และโรงงานปูนซีเมนต์ที่มีระบบจัดการของเสียและไอเสีย (Flue Gas Management System) และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A to sales) มีแนวโน้มลดลงจากระดับ 8.9% ในปี 66 เป็น 5.5-7.0% ในปี 67-68 โดยทางฝ่ายวิจัยเลือกประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ IROYAL ด้วยวิธี PER ได้ราคาเหมาะสมที่ 10.00 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด ระบุว่า แนวโน้มการดำเนินงานในอนาคตของ IROYAL มีมุมมองบวกจากการเติบโตของรายได้ที่เห็นการเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 66 และโอกาสที่จะรับงานใหม่ๆ จากศักยภาพที่สูงขึ้นหลัง IPO โดยประเมิน CAGR ของรายได้จากการขายและบริการปี 66-68 อยู่ที่ 35.39%
ซึ่งในส่วนของรายได้ปี 67 ประเมินอยู่ที่ระดับ 433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นภาพของการขยายตัวได้โดดเด่นจาก โอกาสรับงานใหม่ในช่วงปีหลัง ขณะที่ในส่วนของไตรมาส 1/67 ที่ผ่านมาสามารถทำรายได้อยู่ที่ 83 ล้านบาทแล้ว (คิดเป็น19% ของประมาณการทั้งปี) และ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 67 มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ราว 48.49 ล้านบาท
(โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถรับรู้ได้ภายในปีนี้) โดยนอกจากประเภทงานจะมาจากการรับงานใหม่แล้ว คาดว่า IROYAL จะได้ประโยชน์จากฐานลูกค้าที่สูงขึ้น (ลูกค้าเดิมสั่งอะไหล่ใหม่ในปีถัดๆไป Repeat Order>50%)
ด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายประเมิน GPM ปี 67-68 ที่ระดับ 37.50-39.40% ปรับตัวลงมาจากช่วงปี 66 จากการประมูลงานใหม่ๆ ที่มีโอกาสจะได้มาร์จิ้นที่ต่ำลงในช่วงแรกอย่างไรก็ตาม แม้เราประเมินต้นทุนสูงขึ้น (GPM ลดลง) แต่ประเมิน Net Profit Margin จะยังอยู่ในเกณฑ์ดีในช่วงปี 67-68 ที่ 26.70-27.60% เนื่องจาก Fixed Cost ใน SG&A เพิ่มขึ้นไม่ทันการเติบโตของรายได้
ทั้งนี้ ประเมินกำไรสุทธิปี 67-68 อยู่ที่ 119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 137 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.54% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็น CAGR ของกำไรสุทธิปี 66-68 ที่เพิ่มขึ้น 37.56% ประเมินราคาเหมาะสมของ IROYAL ในปี 67 ได้ที่ 10.40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ผลประกอบการของ IROYAL จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR 3 ปี 67-69) อยู่ที่ 18.40% จากคาดการณ์เติบโตรายได้เฉลี่ย 18% ต่อปี (CAGR 3 ปี 67-69) เติบโตไปพร้อมกับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ ณ ไตรมาส 1/67 บริษัทมีงานขายและขายพร้อมติดตั้งที่ยังไม่ได้ส่งมอบแก่ลูกค้า (backlogs) อยู่ที่ 48.5 ล้านบาท ที่คาดการณ์ว่าจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 67 โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมสำหรับ IROYAL ที่ 12.20 บาท