SENA ชี้นิชไพรด์เอกมัย กวาดยอดขายกว่า 30% อัดโปรพิเศษ 16-17 พ.ย.
SENA เชื่อลดดอกเบี้ยช่วยลดต้นทุนการเงิน-เพิ่มกำลังซื้อผู้บริโภค นิชไพรด์เอกมัย กวาดยอดขายกว่า 30% อัดโปรพิเศษ 16-17 พ.ย.
SENA เชื่อลดดอกเบี้ยช่วยลดต้นทุนการเงิน-เพิ่มกำลังซื้อผู้บริโภค พร้อมเผยโครงการ นิช ไพรด์ เอกมัย มูลค่า 6,000 ล้านบาท ก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 20% กวาดยอดขายกว่า 30% เตรียมเปิดขายรอบ VVIP DAY พร้อมโปรโมชั่นพิเศษในวันที่ 16–17 พ.ย.นี้
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 2.25% นั้น จะช่วยทำให้ต้นทุนการเงินลด เป็นผลดีกับการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลงด้วย และยังช่วยให้ผู้บริโภคมีภาระการจ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง แต่ปัจจุบันประชาชนยังไม่มีความมั่นใจที่จะซื้อของขนาดใหญ่ อย่างอสังหาริมทรัพย์ แต่หวังว่าในช่วงต้นปี 2568 อาจจะได้เห็นการฟื้นตัวและความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น จากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
ขณะที่ล่าสุดบริษัทได้เปิดขายโครงการ นิช ไพรด์ เอกมัย (Niche Pride Ekkamai) มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท ในเฟสที่ 1 (จำนวน 382 ยูนิต) อย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี โดยปัจจุบันมียอดขาย (Presale) แล้วที่ประมาณ 30% และจะเปิดขายรอบ VVIP DAY พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ในวันที่ 16–17 พฤศจิกายน 2567 ลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท ได้ที่เว็บไซต์ พร้อมวางเป้าหมายภายในสิ้นปี 2567 จะมียอดขายเพิ่มเป็น 40% โดยปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ในระหว่างก่อสร้างมีความคืบหน้าแล้วประมาณ 20% และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 ซึ่งโครงการ นิช ไพรด์ เอกมัย เป็นคอนโดมิเนียมที่ร่วมทุนระหว่าง SENA และ “ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป” ระดับพรีเมียม ประกอบด้วย อาคาร High Rise สูง 39 ชั้น 2 อาคาร รวมห้องชุดพักอาศัย 879 ยูนิต
สำหรับโครงการ นิช ไพรด์ เอกมัย พัฒนาภายใต้แนวคิด “UNIMAGINABLY LIFE ชีวิตเกินจินตนาการใจกลางเอกมัย” มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่หลากหลาย ซึ่งโครงการดังกล่าวยังเป็นคอนโดโลว์คาร์บอนพรีเมียมแห่งแรกของเสนา และเป็นครั้งแรกที่นำเทคโนโลยี “Zeroboard” มาช่วยคำนวณค่าการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์ โดยสามารถระบุได้ว่าห้องพักแต่ละห้องในคอนโดช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้มากน้อยเพียงใด ตามขนาดพื้นที่ห้องที่แตกต่างกัน
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวอีกว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่ชะลอตัว SENA มองเห็นโอกาสในการเพิ่มตัวเลือกในการซื้อที่อยู่อาศัย นั่นคือรูปแบบ “Rent to Own” หรือ “เช่าออมบ้าน” ซึ่งเป็นทางเลือกกลางระหว่างการเช่าและการซื้อ โดยรูปแบบนี้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการเป็นเจ้าของบ้าน แต่ยังไม่พร้อมทางการเงิน ปัจจุบันมีกระแสตอบรับที่ดี โดยมีลูกค้าจองซื้อในรูปแบบดังกล่าวกว่า 800 ราย แต่มีผู้ที่ผ่านการซื้อจำนวน 400-500 ราย (ส่วนนี้จะบันทึกเป็นรายได้จากการเช่า) ซึ่งถือเป็นการเพิ่มพอร์ตการเช่าของบริษัทด้วย จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากการเช่า 5%