พาราสาวะถี
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า สหรัฐอเมริกาจะมีผู้นำคนใหม่หน้าเดิมที่ชื่อว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า สหรัฐอเมริกาจะมีผู้นำคนใหม่หน้าเดิมที่ชื่อว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นการคัมแบ็กสู่ทำเนียบขาวเป็นหนที่สอง เป็นประธานาธิบดีคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าชัยสมัยที่สองที่ไม่ต่อเนื่องกัน ทันทีทันใดที่ทราบผลเจ้าตัวก็มีการประกาศว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของชาวอเมริกัน พร้อมลั่นจะนำประเทศเข้าสู่ “ยุคทองของอเมริกา” มีประโยคเด็ดด้วยว่า ตนจะไม่หยุดพักจนกว่าจะได้มอบอเมริกาที่แข็งแกร่ง ปลอดภัย และเจริญรุ่งเรืองที่ลูกหลานสมควรได้รับ และที่พวกคุณสมควรได้รับ
ที่น่าหวั่นใจในแง่ของภาคเอกชนทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยก็คือ เมื่อทรัมป์กลับมา สงครามการค้าจะดุเดือด เข้มข้นเหมือนก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้พบว่าหลายรัฐมีผู้มาใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์ และน่าจะแซงหน้าจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2020 ประสาอเมริกันชน ผลสำรวจของสำนักโพลชี้ว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่มั่นใจไปในทิศทางเดียวกัน การเลือกตั้งครั้งนี้จะดำเนินไปด้วยดี ไม่ว่าแต่ละคนจะสนับสนุนผู้สมัครรายใดก็ตาม
ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยนั้น โรเบิร์ต เอฟ.โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ยืนยันว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ตนรับรองได้ว่า สหรัฐฯ จะยังคงเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งของไทย จะมีความสัมพันธ์ที่สำคัญแนบแน่น เสมือนผืนผ้าที่ถักทอขึ้นจากสายสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายทั้งในด้านการค้า การลงทุน ความมั่นคง การศึกษา และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ไทยเป็นมิตรประเทศแรกของสหรัฐฯ ในเอเชีย และความสัมพันธ์ด้านการทูตมีอายุย้อนกลับไปกว่า 190 ปี ทั้งหมดนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าไม่คิดว่านี่เป็นภาษาทางการทูตน่าจะเป็นสัญญาณที่ดี
ขณะที่ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ย้ำว่า การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ยังเหมือนเดิม อาจจะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกันระหว่างผู้นำของไทยและทุกภาคส่วน เพราะรัฐบาลเข้ามาก็มาดูในเรื่องของนโยบาย แต่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความร่วมมือระหว่างกัน มีหลายระดับและหลายมิติ รวมทั้งทุกภาคส่วนต้องไปด้วยกัน ทั้งรัฐบาล ความร่วมมือจีทูจี เอกชนกับเอกชน และภาคประชาชนกับประชาชน โดยทั้งสามระดับดีอยู่แล้ว ใครจะมาเป็นหัวเรือไม่มีปัญหา
ความจริงเหตุที่ต้องจับตาความเปลี่ยนแปลงของสหรัฐฯ ไม่เพียงเพราะเป็นพี่เบิ้มของโลกเท่านั้น แต่โดยเนื้อแท้ภายใต้โลกยุคใหม่ บทบาทหน้าที่ของคนที่มาเป็นผู้นำประเทศต้องมองรอบด้าน เหมือนที่มาริษบอกว่า นโยบายของ แพทองธาร ชินวัตร ต้องการให้ประเทศไทยมีบทบาท ไม่ใช่เป็นผู้ที่จะไปกำหนดอะไร รัฐบาลต้องการเห็น ความร่วมมือระหว่างไทยกับทุกประเทศอย่างดีและต้องมีความยุติธรรม รวมทั้งอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมืออย่างยุติธรรม เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศที่เป็นคู่เจรจา ถือว่าวิน-วิน
ความสำคัญของการดำเนินนโยบายด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยุคใหม่ ต้องเน้นการขยายความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ แสวงหาการเพิ่มตลาดเพื่อส่งออกสินค้าจากประเทศไทยให้มีผลต่อการเจริญเติบโตภายในประเทศ เช่นเดียวกับการสร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาตินำเม็ดเงินเข้ามาลงทุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งระหว่างประเทศหรือกลุ่มประเทศนั้น เป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงในการจะแสดงจุดยืนเลือกข้างหนึ่งข้างใดอยู่แล้ว
ตั้งแต่ยุคของ เศรษฐา ทวีสิน จะเห็นได้ว่ามีการเดินสายเพื่อเชื้อเชิญให้กลุ่มทุนจากประเทศต่าง ๆ เข้ามาลงทุนในประเทศไทย พร้อมกับนำเสนอเครื่องมือที่จะอำนวยความสะดวกในการลงทุน รวมทั้งด้านการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลแพทองธารก็รับไม้ต่อและขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน จึงทำให้งานไม่สะดุด หากไม่เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจเหมือนกันทั่วโลก ปัจจัยภายนอกไม่รุนแรง หวังกันว่า คุณภาพชีวิตของประชาชนน่าจะดีขึ้น
ปมปัญหาทางการเมือง หลังจากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงเรื่องเอ็มโอยู 44 และเกาะกูด ขณะที่อุ๊งอิ๊งก็ได้คุยแบบเปิดใจกับพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้กระแสที่ถาโถมเข้าใส่ลดความน่าสนใจลงไป จะว่าไปแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้น้ำหนักต่อเรื่องดังกล่าวมากเท่าไหร่ จะคึกคัก คาดหวังว่าจะล้มรัฐบาลได้ก็แต่พวกขาประจำ และนักเคลื่อนไหวมีเบื้องหลังบางรายเท่านั้น เพราะปลายทางต่างรู้ว่า ประเด็นผลประโยชน์มหาศาลของบ้านเมือง ไม่มีทางที่จะไปงุบงิบทำกันได้
ขณะที่เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ การที่พร้อมใจเห็นตรงกัน ทำให้โปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย พยายามอย่างเต็มที่ที่สุด ไม่ทันสมัยรัฐบาลนี้ไม่เป็นไร พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลไม่ได้เสียหน้า ไม่เสียหาย ในเมื่อการขับเคลื่อนเรื่องสำคัญเช่นนี้ไม่ได้ผ่านแค่สภาผู้แทนราษฎร แต่มีวุฒิสภาเป็นด่านขวางทางอยู่ สะดุดเพราะเหตุสุดวิสัย ยิ่งเป็นการดีที่จะชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้ครอบงำองค์กรใด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่อยากจะทำ อยากจะได้ทุกประการ
เช่นเดียวกับร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ต่างเห็นเหมือนกันไม่แตะมาตรา 112 ซึ่งก็ล้อไปกับการแก้รัฐธรรมนูญที่ต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าไม่ยุ่งกับหมวด 1 และหมวด 2 อันเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ย่อมปิดทางฝ่ายตรงข้ามที่จะหยิบยกไปโจมตี สั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลไปโดยปริยาย ท้ายที่สุดหนีไม่พ้นที่เหล่าแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเห็นพ้องต้องกัน และเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของแพทองธาร และการนำของพรรคเพื่อไทยคือ ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ แล้วความนิยมของทุกพรรคจะดีตามมาเอง
ความเชื่อในลักษณะนี้มีการพูดกันภายในพรรคนายใหญ่แล้วว่า พวกที่คัดค้านการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ในพรรคเก่าแก่ เริ่มมีการปรับเปลี่ยนท่าทีบ้างแล้ว จากเดิมที่หัวชนฝา ไม่สังฆกรรม ทำงานร่วมกันไม่ได้ แต่พอเห็นกระแสหลังการเข้าสู่อำนาจบริหารมีแนวโน้มเชิงบวก ทำให้บางรายแสดงความหวังดี ชี้แนะแนวทางการบริหารบ้านเมืองในเชิงสร้างสรรค์ จากที่ก่อนหน้าหลับหูหลับตาค้านกันอย่างเดียว บอกแล้วว่าการเมืองยุคใหม่จะทำตัวเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปีเหมือนเดิมไม่ได้
อรชุน