แนวโน้ม SET ไซด์เวย์ หลัง “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งสหรัฐ – จับตาประชุมเฟดวันนี้
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวผันผวน หลัง นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจากความไม่แน่แน่นอนของนโยบาย รอติดตามประชุมเฟดวันนี้ พร้อมให้แนวต้าน 1,470-1,475 จุด แนวรับ 1,450-1,455 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวผันผวน หลังจากเมื่อวานนี้ปรับตัวลง จากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนเสียงเลือกตั้งนำนางคามาลา แฮร์ริส คู่ท้าชิง และได้ออกมาประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งยังคงเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย จากความไม่แน่แน่นอนของนโยบายที่จะออกมาหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
ขณะที่ในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยผลักดันดัชนี ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ที่เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน โดยตลาดรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ พร้อมให้แนวต้าน 1,470-1,475 จุด แนวรับ 1,450-1,455 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์ SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,460-1,472 จุด โดยคาด Upside ระยะสั้นยังจำกด ถูกกดดันจากภาพใหญ่หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้งกลับมา ดำรงตำแหนงประธานาธิบดีอีกครั้ง ซึ่งมองว่าจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดเอเชียจากความกังวล เรื่องสงครามการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น
รวมถึงแนวโน้ม Dollar Index และ Bond Yield ที่ปรับขึ้น กดดันค่าเงินสกุลเอเชียและกระแสเงินทุนให้อยู่ในทิศทางไหลออก ส่วนคืนนี้มีปัจจัยที่ต้อง ติดตามคือการประชุม FED ซึ่งคาดว่าจะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% เหลือ 4.50-4.75% แต่ที่ต้องจับ ตาคือถ้อยแถลงว่าจะส่งสัญญาณ อย่างไรต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในระยะถัดไปโดยเฉพาะหลังทรัมป์กลับสู่ตำแหน่ง
ด้านปัจจัยในประเทศยังคงให้น้ำหนักกับการประกาศกำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/67 ซึ่งภาพรวมเท่าที่ประกาศออกมาถือว่าค่อนไปในทางต่ำกว่าคาดเล็กน้อย และเริ่มเห็นการปรับประมาณการ EPS ปี 67-68 ลงราว 2-3% ซึ่งเป็นอีกปัจจัยกดดัน ดัชนีจากด้าน Valuation ที่ตึงตัวขึ้นเล็กน้อย ระยะสั้นมองดัชนีมีโอกาสชะลอตัวและคาดยังผ่านแนวต้านหลัก 1,500 จุดไม่ง่าย
อย่างไรก็ตามยังมองโอกาสฟื้นตัวของดัชนีในระยะกลาง-ยาวเข้าหา SET Target ปี 68 ที่ 1,600 จด ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากภาพรวม เศรษฐกิจที่ยังอยู่ในทิศทางทยอยฟื้นตัว และได้แรงหนุนจากทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก รัฐบาล รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มขยับลงบ้าง ขณะที่ Downside คาดยังคงถูกจำกัดจากเม็ดเงิน ลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่ทยอยซื้อหุ้นในช่วงดัชนีย่อตัว